"พิธา"ลั่นทางออกเดียวของประเทศคือแก้ รธน.

2021-03-24 15:35:25

"พิธา"ลั่นทางออกเดียวของประเทศคือแก้ รธน.

Advertisement

"พิธา" ชี้ รธน.บิดเบี้ยวส่งผลเจตจํานงประชาชนถูกบิดเบือนอย่างน่าไม่อาย  ลั่นทางออกเดียวของประเทศไทยคือการแก้ไข รธน.

เสียชีวิตแล้ว! สาวเมืองคอนเหยื่อด้ามไม้กวาดแทงทะลวงอวัยวะเพศ

ญาติเปิดศึก! แย่งศพสาวเหยื่อด้ามไม้กวาด หลังเสียชีวิตที่ รพ.

ความในใจ “ไบรท์” หลังสูญเสียคุณแม่ ‘นักสู้คนเก่งของลูก’

เมื่อวันที่ 24 มี.ค. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นเนื่องในโอกาสครบรอบ 2 ปี การเลือกตั้ง ว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ภาพของพี่น้องประชาชนชาวไทยที่มีความหวัง ที่กระตือรือร้น ในการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งยังคงเป็นภาพแห่งความประทับใจของตนเสมอ แต่แล้วความบิดเบี้ยวของรัฐธรรมนูญ ได้ส่งผลให้เสียงของประชาชนถูกบิดเบือนไปอย่างน่าไม่อายตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งจนถึงวันประกาศผลการเลือกตั้ง ทั้งการออกแบบระบบการเลือกตั้งที่เอื้อผลประโยชน์แก่ผู้สืบทอดอำนาจจากคสช. การเลือกใช้ระบบจัดสรรปันส่วนผสมสูตรพิสดาร และการอนุญาตให้สมาชิกผู้แทนราษฎรสามารถเสนอชื่อ ผู้ที่มิใช่ ส.ส. ให้เป็นนายกรัฐมนตรีได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อ แม้ว่า ส.ส. จำนวนมากจะไม่สนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ เลยก็ตาม การเลือกตั้งในครั้งนั้น ถือเป็นจุดสำคัญอีกสุดหนึ่งที่สร้างรอยร้าวในรัฐสภาไทย มีบางพรรคการเมืองถึงกับหลอกหลวงประชาชน ด้วยการโกหกจุดยืนของตนเอง ประกาศตนว่าจะขอไม่สนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป และขอไม่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อให้ได้มาซึ่งเสียงของพี่น้องประชาชน แต่เมื่อรัฐสภามีมติให้โหวตเลือกนายกรัฐมตรี พรรคเหล่านี้กลับกลืนน้ำลายตัวเอง หักหลังความไว้วางใจของพี่น้องประชาชน เหยียบย้ำคำมั่นสัญญาที่ตนเคยมีไว้ โหวตเลือกให้ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง สร้างความสับสนและความขุ่นเคืองให้แก่ประชาชนอย่างมาก

หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุต่อว่า ขณะเดียวกัน เสียงของประชาชน 6.3 ล้านเสียงที่ไว้วางใจและเลือกอดีตพรรคอนาคตใหม่ ก็ถูกระบบจัดสรรปันส่วนผสมของ กกต. ที่บิดเบี้ยว บิดเบือนจำนวน ส.ส. ปัดเศษคะแนนไปให้ ส.ส.บางคน ทำให้อดีตพรรคอนาคตใหม่ให้เหลือเพียง 81 ที่ แทนที่จะได้ถึง 88 ที่นั่ง อันเป็นการลดทอนอำนาจของอดีตพรรคอนาคตใหม่ ไม่ให้เข้ามาหยุดความพยายามในการสืบทอดอำนาจของ คสช. ในรัฐสภา และเมินเฉยต่อเสียงของประชาชน ผู้ทรงอำนาจสูงสุดในการสถาปนารัฐธรรมนูญ ในการตัดสินอนาคตของประเทศและของพวกเขาเองด้วยเช่นกัน พรรคก้าวไกลจึงขอยืนยันว่า กระบวนการทั้งหมดที่ผ่านมาและความพยายามของ คสช. ที่จะหยุดยั้งอดีตพรรคอนาคตใหม่ เป็นกระบวนการของคนไร้สิ้นหนทาง และเป็นความเห็นแก่ตัวของผู้ทรงอำนาจ ที่ต้องการแช่แข็งและขัดขวางความก้าวหน้าของประเทศไทย  นอกจากนี้ ตั้งแต่มีการยุบพรรคอนาคตใหม่ ตนและพรรคก้าวไกลได้เฝ้ามองการผลิบานของพลังนักเรียน นักศึกษา ประชาชนมาตลอด จนถึงเวลานี้กลายเป็นเสียงที่เรียกร้องให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทั่วทุกหย่อมหญ้า พวกเขาออกมาชุมนุมเพื่ออนาคตที่ดีกว่าของประเทศไทย แต่แล้วรัฐกลับเพิกเฉยต่อเสียงของพวกเขาตลอดมา รัฐบาลไม่เคยรับฟังพวกเขาอย่างจริงใจแต่กลับมองเป็นภัยคุกคาม เป็นศัตรูที่ถูกใครชักใยปั่นหัวอยู่เบื้องหลัง ดูถูกเจตจำนงบริสุทธิ์ของพวกเขา ทั้งที่สิ่งที่ทำให้เขาต้องออกมานั้นคือประเทศไทยที่กำลังดิ่งลงเหวภายใต้การบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์ เวลาผ่านมา 1 ปีแล้ว ถึงเวลาที่ท่านควรจะรับฟังประชาชนเลิกมองว่าพวกเขาเป็นศัตรู เลิกจับประชาชนบริสุทธิ์เข้าคุกอย่างไร้ความชอบธรรม ตราหน้าพวกเขาว่าผิดบาปเพียงเพราะพูดสิ่งที่เชื่อมั่น ณ เวลานี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญคือทางออกของประเทศเรา ให้ประชาชนทุกชนชั้น ทุกรุ่น ได้ร่วมสร้างกติกาสูงสุดของประเทศ รับฟังเสียงแห่งยุคสมัยและยอมรับว่าที่พวกเขาทำเพื่อประเทศชาติไม่ต่างกับท่าน แต่เพียงเขารักชาติมากพอที่จะมองเห็นปัญหา และปัญหาเหล่านั้นก็คือผลผลิตจากคนรุ่นก่อน คนรุ่นท่าน คนรุ่นผม ที่ร่วมสร้างและหมักหมมปัญหานั้นไว้ให้ลูกหลานอย่างพวกเขาเอง

"ผมขอย้ำว่าทางออกเดียวของประเทศไทยในห้วงเวลานี้ คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกชนชั้น ทุกรุ่น ได้ร่วมสร้างกติกาสูงสุดของประเทศ รับฟังเสียงแห่งยุคสมัย และต้องยอมรับว่าสิ่งที่ประชาชนเรียกร้องให้แก่ประเทศชาติในเวลานี้ คือ การกระทำของคนรักชาติไม่ต่างจากพวกท่าน แต่เพียงว่าพวกเขารักชาติมากพอที่จะไม่เพิกเฉยต่อปัญหา และกล้าหาญมากพอที่จะพูดถึงอย่างเปิดเผย หากรัฐสภาและสถาบันการเมืองในระบบทั้งหมด ยังคงเมินเฉยและปฏิบัติตนเป็นปฏิปักษ์ต่อเจตจำนงทางการเมืองของนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนอยู่เช่นนี้ อีกไม่นานประชาชนย่อมต้องหาทางออกด้วยวิธีทางอื่นแทน  ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความไว้วางใจในตัวพรรคตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะมีอุปสรรคมากมายให้ต้องฝ่าฟัน เราก็ไม่เคยหยุดผลักดันอุดมการณ์และความฝันที่เคยให้คำมั่นสัญญากับไว้ และขอให้มั่นใจได้ว่า พรรคก้าวไกลจะขอก้าวต่อไปอย่างหนักแน่น ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและจะเป็นพรรคของประชาชนอย่างแท้จริงเช่นเดิม"นายพิธา กล่าว