ส.ว.จ่อยื่นตีความ ก.ม.ประชามติ ชี้แนวโน้มส่อขัด รธน. มาตรา 166 เพิ่มอำนาจนิติบัญญัติเหนือฝ่ายบริหาร
"น้องเนย"เผยภาพคู่แฟนหนุ่มแจ้งข่าวดีมีน้องแล้ว
“แนท เกศริน” ลั่นแรงขายเซ็กซี่ไม่ได้ขายตัว หลังมีคนดราม่าชุดแซ่บ-เว้าสูงปรี๊ด
จบแล้วรักนี้ !! ครีม เปรมสินี" น้ำตาแทบไหล ลั่นสถานะล่าสุดคือ "เตียงหัก"
เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่รัฐสภา นายสมชาย แสวงการ ส.ว. กล่าวถึงกรณีที่ประชุมรัฐสภามีมติให้แก้ไขเนื้อหามาตรา 9 ร่างพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติว่า เนื้อหามาตรา 9 ร่างพ.ร.บ.ประชามติที่ที่ประชุมรัฐสภามีมติให้แก้ไขเนื้อหา โดยเพิ่มอำนาจรัฐสภาและภาคประชาชนสามารถส่งเรื่องให้ ครม.จัดทำประชามติได้ จากเดิมให้เป็นดุลยพินิจของ ครม.ฝ่ายเดียวนั้น อาจขัดกับมาตรา 166 ของรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นการเพิ่มอำนาจให้ฝ่ายนิติบัญญัติมีอำนาจเหนือฝ่ายบริหาร ยิ่งถ้าให้ต้องทำประชามติทุกเรื่องตามที่ภาคประชาชนเข้าชื่อเสนอมา ก็อาจยิ่งมีปัญหา ถ้าต้องทำประชามติในทุกเรื่อง ก็ยิ่งไปกันใหญ่ กำลังรอดูว่า ผลการแก้ไขเนื้อหามาตรา9 ของ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประชามติ จะไปกระทบกับเนื้อหามาตราอื่นๆเช่น มาตรา 10-11 และมาตราอื่นๆ ถ้าแก้แล้วมีเนื้อหาไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ก็อาจไม่ต้องยื่นตีความ แต่ถ้าแก้แล้วมีเนื้อหาไปขัดต่อรัฐธรรมนูญ ก็จำเป็นต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความร่างพ.ร.บ.ประชามติ ดูแนวโน้มแล้วคิดว่าอาจขัดรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่า หากแก้ไขเนื้อหามาตรา9แล้ว ยังเห็นว่า ขัดรัฐธรรมนูญ ส.ว.จะโหวตคว่ำร่างพ.ร.บ.ประชามติ วาระสามใช่หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ยังมั่นใจว่า ร่างพ.ร.บ.ประชามติจะผ่านวาระสาม แต่ถ้าไม่ผ่านก็สามารถใช้ร่างพ.ร.บ.ประชามติฉบับเดิมในการทำประชามติเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญได้