"จุรินทร์"อยากให้ 3 ฝ่ายถกหาข้อสรุปแก้ รธน.

2021-03-23 11:30:21

"จุรินทร์"อยากให้ 3 ฝ่ายถกหาข้อสรุปแก้ รธน.

Advertisement

"จุรินทร์"เผยอยากให้ 3 ฝ่ายคุยกันหาข้อสรุปเพื่อให้การแก้ไข รธน.ราบรื่น  ยัน 2 ปีที่เหลือผลักดันแก้ รธน.ต่อไป

“แนท เกศริน” ลั่นแรงขายเซ็กซี่ไม่ได้ขายตัว หลังมีคนดราม่าชุดแซ่บ-เว้าสูงปรี๊ด

ไม่โกรธนะ !! "หนิง ปณิตา" คลายปมเจอ "นก อุษณีย์" เมิน

เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ในฐานะที่เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็คงต้องหารือร่วมกัน แต่บังเอิญว่าเริ่มต้นก็ได้คุยกัน 3 พรรค ยังไม่ได้คุยกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)  แต่ถัดจากนี้เป็นหน้าที่ของวิปเพราะเรามีวิปของแต่ละพรรคร่วมรัฐบาลที่จะต้องไปหารือกันกับกฎหมายที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภา ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญถือว่าเป็นกฎหมายสูงสุดในการที่จะเข้าสู่สภาก็ต้องไปหารือกัน เพียงแต่ว่าเริ่มต้นเจอกัน 3 พรรค ก็เลยได้คุยกันเบื้องต้นไปแล้ว  ในส่วนพรรคประชาธิปัตย์ก็จะใช้ความพยายาม เพราะถือว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นจะเป็นประโยชน์กับประเทศในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาที่มีความสำคัญไม่แพ้ปัญหาการเมืองต่อไป เพราะว่าถ้าการเมืองนิ่ง การเมืองสงบ ทุกอย่างเดินหน้าไปได้ด้วยความเรียบร้อย การแก้ปัญหาเศรษฐกิจก็จะบรรลุผลได้ราบรื่นขึ้น อันนี้คือหัวใจสำคัญ เพราะฉะนั้นการแก้รัฐธรรมนูญก็เสริมการแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วย และเป็นทางออกให้กับประเทศ เพราะว่าการที่จะพาประเทศไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น ก็เป็นทิศทางที่ควรจะเป็นอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคจะพยายามผลักดันให้เกิดการแก้รัฐธรรมนูญภายใน 2 ปีที่เหลือใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อย่างน้อยที่สุดประชาธิปัตย์ก็จะพยายามผลักดัน เพราะอันนี้ก็ถือเป็นทิศทางที่ได้พูดไปตั้งแต่ต้น และที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าได้ทำหน้าที่จนกระทั่งวาระสุดท้ายนั่นก็คือการลงคะแนนเห็นชอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่สาม ผู้สื่อข่าวถามว่า การแก้เป็นรายมาตราจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ณ สถานการณ์ขณะนี้ เพราะการแก้ทั้งฉบับมีเครื่องหมายคำถาม และดูเหมือนข้อถกเถียงยังไม่มีข้อยุติว่าสุดท้ายแล้วจะต้องไปทำประชามติก่อนวาระหนึ่ง หรือไปทำประชามติหลังผ่านวาระสาม ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ก็เป็นข้อถกเถียง ตนก็ได้เสนอวันนั้นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอีกรอบ แต่ว่าบังเอิญข้อเสนอของตนยังไม่ทันได้พิจารณา ญัตตินั้นตกไปก่อนเพราะญัตติที่จะให้โหวตวาระสามผ่านเสียก่อน

ผู้สื่อข่าวถามถึง กรณีที่มีการไปยื่น ป.ป.ช. ให้พิจารณาเอาผิดกับ 208 ส.ส. ส.ว. ที่ลงมติในวาระสามจะส่งผลต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไปหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ความจริงการลงมติให้ความเห็นชอบแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระที่สาม เป็นไปตามมติของรัฐสภาวันนั้น เพราะก่อนที่ทุกคน 208 ท่าน จะลงมติให้ความเห็นชอบก็เป็นมติของที่ประชุมรัฐสภาว่าให้นำเข้าสู่การพิจารณาวาระที่สามได้ และตนถือว่าการลงมติให้ความเห็นชอบวาระที่สามวันนั้นเป็นการปฎิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญและเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยชอบทุกประการไม่ได้มีปัญหาอะไร

“ถ้ามีปัญหาก็จะมีปัญหาทุกคน เพราะคนที่ไปร้องนี้ก็มีข้อสังเกตเหมือนกันว่าทำไมเลือกร้องเฉพาะคนที่โหวตรับรัฐธรรมนูญ คนที่โหวตไม่รับทำไมถึงไม่ร้อง หรือว่าคนที่มีมติให้รัฐสภาลงมติวาระที่สามได้ ทำไมถึงเว้นไว้ อันนี้ไม่ได้หมายความว่าให้ไปร้องให้ครบทุกคนนะ แต่หมายความว่ามีข้อสังเกตเพราะฉะนั้นก็จะกลายเป็นว่าทำให้คนที่ลงมติรับรัฐธรรมนูญวาระที่สามจะกลายเป็นเป้าหมายในการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่”หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าในกรณีที่จะมีการแก้อำนาจ สว.ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งญัตตินี้เคยถูกตีตกไปแล้วครั้งหนึ่งมั่นใจหรือไม่ว่าในการยื่นครั้งต่อไปจะได้รับความเห็นชอบจาก ส.ว. นายจุรินทร์ กล่าวว่าเราก็ต้องทำหน้าที่ของเรา ส่วนผลจะเป็นอย่างไรนั้นไม่ได้อยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์เพียงพรรคเดียวหรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเท่านั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับมติที่ประชุมร่วมและขึ้นอยู่กับวุฒิสมาชิกไม่น้อยกว่า 1 ใน 3  และขึ้นอยู่กับฝ่ายค้านไม่น้อยกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ด้วย ซึ่งเป็นเงื่อนไขบังคับที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนไว้ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญแก้ไขยาก แต่เราก็ต้องฝ่าด่านนี้ไป มิฉะนั้นการแก้รัฐธรรมนูญก็ไม่สามารถทำได้เลย และอย่างที่ได้เรียนไว้ว่าเราคิดว่าการแก้รัฐธรรมนูญ เป็นทางออกของประเทศทางหนึ่งและจะส่งผลดีต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ประชาชนอยากเห็นอยู่ด้วย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ต้องทำควบคู่กัน ทั้งเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและแก้ปัญหาการเมือง หรือการแก้ปัญหาปากท้อง โควิด กับการแก้ไขธรรมนูญ เป็นเรื่องที่เอื้อซึ่งกันและกัน ช่วยให้ประชาชนได้รับประโยชน์ในทางสุดท้ายหรือเป็นเป้าหมายสุดท้ายในที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ 3 ฝ่าย คือ รัฐบาล ส.ว. และฝ่ายค้าน จะจับมือกันในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายจุรินทร์ กล่าวว่า อยากให้เป็นเช่นนั้นอยากเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้น และตนก็เคยเรียนมาก่อนหน้านี้แล้วว่าอยากให้ 3 ฝ่ายได้คุยกันและหาทางออกร่วมกันเพื่อนำมาสู่ข้อสรุปที่จะทำให้การแก้รัฐธรรมนูญราบรื่นโดยไม่ตัดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง