อียู-สหรัฐคว่ำบาตรกองทัพพม่า

2021-03-23 09:00:20

อียู-สหรัฐคว่ำบาตรกองทัพพม่า

Advertisement


สหภาพยุโรปและรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ประกาศมาตรการคว่ำบาตร นายทหารระดับสูงของกองทัพเมียนมา ที่มีส่วนร่วมในการก่อรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน ที่นำโดยนางออง ซาน ซูจี เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ขณะที่สถานการณ์ประท้วงต่อต้านรัฐประหารในเมียนมา ล่าสุดจำนวนผู้เสียชีวิตจากการประท้วง เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 250 ศพแล้ว

การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ 27 ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ อียู ที่กรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม เมื่อวันจันทร์ (22 มี.ค.) ที่ประชุมมีมติให้กำหนดมาตรการคว่ำบาตร กลุ่มผู้นำ 11 คนของรัฐบาลทหารเมียนมา ที่มีส่วนร่วมในการก่อรัฐประหาร 1 ก.พ. และสั่งการปราบปรามผู้ประท้วง นำโดย พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ พล.ท.มะหยิ่น ส่วย รักษาการประธานาธิบดี



มาตรการคว่ำบาตรจะมีผล ห้ามบุคคลทั้ง 11 คน และสมาชิกในครอบครัว เดินทางเข้า 27 ประเทศเครือข่ายอียู และอายัดทรัพย์สินในต่างแดน

แหล่งข่าวในสำนักงานใหญ่อียู ในกรุงบรัสเซลส์ เผยว่า อียูเตรียมประกาศคว่ำบาตรเมียนมาอีกชุด โดยมีเป้าหมายที่องค์กรธุรกิจต่างๆ ที่สร้างรายได้ให้กลุ่มผู้นำกองทัพเมียนมา รวมถึง 2 บริษัทขนาดใหญ่คือ เมียนมา อีโคโนมิก โฮลดิ้ง หรือ เอ็มอีเอชแอล และเมียนมา อีโคโนมิก คอร์ปอเรชัน หรือ เอ็มอีซี



ในวันเดียวกันนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐ ในกรุงวอชิงตัน ออกแถลงการณ์ คำสั่งมาตรการคว่ำบาตร บุคคลและนิติบุคคลในเมียนมา ที่เกี่ยวพันกับรัฐบาลทหาร และการปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วง

นายแอนเดรีย กาซกี ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างชาติ กระทรวงการคลังสหรัฐ กล่าวว่า กลุ่มบุคคลในเมียนมา ที่ถูกคว่ำบาตร ประกอบด้วย พล.ท.ถั่น หล่าย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ท.อ่อง โซ ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ และนายทหารระดับสูงอีก 2 คนของกองทัพ ส่วนหน่วยงานได้แก่ กองพันทหารราบอาวุธเบาที่ 33 และ 77 กองทัพบกเมียนมา

ทางด้านสถานการณ์การประท้วงต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา กลุ่มเคลื่อนไหวในนาม สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองเมียนมา หรือ เอเอพีพี เผยเมื่อวันจันทร์ ว่า จำนวนผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหาร ที่เสียชีวิตจากการประท้วง ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 250 ศพแล้ว โดยผู้ประท้วงถูกเจ้าหน้าที่ความมั่นคงยิงเสียชีวิตอีก 3 ราย เมื่อวันจันทร์ ในระหว่างการชุมนุมประท้วง ที่เมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ รองจากย่างกุ้ง ทางภาคกลางตอนบน โดยผู้เสียชีวิต 1 ใน 3 คนเป็นเด็กชายอายุ 15 ปี.