"รังสิมันต์"เผยก้าวไกลไม่ได้เล็งแก้เเค่ ม.272

"รังสิมันต์"เผยก้าวไกลไม่ได้เล็งแก้เเค่ ม.272

เมื่อวันที่21 มี.ค.นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราไม่ใช่เรื่องใหม่ พรรคก้าวไกลเคยเสนอแก้ไขทั้งรายมาตราและแก้ไขโดยจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับมาเเล้ว ในเดือนก.ย.2563 แต่ฝ่ายรัฐบาล และส.ว.ไม่โหวตให้ วันนี้การแก้มาตรา272 ตัดอำนาจส.ว. พรรคก้าวไกลก็มีแนวคิดจะแก้ แต่มีคำถามว่าเพียงพอต่อการแก้ไขปัญหาวิกฤติประเทศหรือไม่ เช่น เรื่องศาลรัฐธรรมนูญ ที่สามารถวินิจฉัยในเรื่องต่างๆ ที่เราต้องพูดตรงๆว่า ก้าวล่วงเข้ามาอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ หรือ มาตรา 279 เกี่ยวพันกับการรับรองประกาศคำสั่งของ คสช. และมาตรา 270-271 เรื่องส.ว.มีอำนาจโหวตกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปประเทศก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญที่ต้องแก้ ยิ่งเมื่อเราเห็นอิทธิฤทธิ์อภินิหารขององค์กรต่างๆตามรัฐธรรมนูญ แล้วยิ่งต้องทบทวนทั้งหมด ส่วนเรื่องเงื่อนเวลาจะทันรัฐบาลนี้หรือไม่นั้น บางอย่างทำไปพร้อมกันได้เพราะบางเรื่องไม่ต้องทำประชามติหรือเรื่องที่ต้องทำประชามติ ก็แก้หลายเรื่องไปพร้อมกันแล้วไปทำประชามติในคราวเดียว เพื่อประหยัดเวลาและเงินงบประมาณ ซึ่งเรื่องการทำประชามติ ทุกฝ่ายต้องช่วยกันกดดันไปยังรัฐบาล

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า หลายเรื่องที่ประชาชนและส.ส.อยากแก้ แต่สุดท้ายต้องใช้เสียงส.ว. 84 เสียงในการโหวตผ่าน ตนคิดว่า พรรคก้าวไกลคงต้องให้เสียงประชาชนเป็นเสียงที่เปล่งออกมา เมื่อเราคุยกันด้วยเหตุผลแล้วมันไม่จบ ถูกคว่ำตกไป ไม่ง่ายและยากที่ส.ว.จะยอมตัดอำนาจตัวเอง อาจจะต้องทำให้เกิดแรงกดดันทั้งในและนอกสภาฯที่พุ่งตรงไปยังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ซึ่งยังเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับส.ว.ชุดนี้อยู่ ส.ว.เปรียบเหมือนพรรคการเมืองหนึ่งพรรค ซึ่งไม่ได้เป็นอิสระ ที่ผ่านมาเขาก็แสดงออกให้เห็นว่ายังสั่งการกันได้อยู่รวมถึงถ้าสังคมไทยกดดันไปที่ส.ว.กันมาก ก็มีสิทธิ์ที่เขาจะยอม