ชื่นชม! เจ้าของร้านตามสั่ง เก็บเงินเกือบ 3 แสนคืนลูกค้า

2021-03-18 16:00:36

ชื่นชม! เจ้าของร้านตามสั่ง เก็บเงินเกือบ 3 แสนคืนลูกค้า

Advertisement

สุดประทับใจ เจ้าของร้านอาหารตามสั่งเก็บเงินเกือบ 3 แสนส่งคืนลูกค้า หลังลืมทิ้งไว้ที่ร้าน

วันที่ 18 มี.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟชบุ๊ก ข่าวชุมชนหนองบุญมาก ได้แชร์เรื่องราวของผู้ที่ใช้ชื่อเฟชบุ๊ก ว่า “ปราณีต พลอยกระโทก” บอกเล่าเรื่องราวสุดประทับใจ ข้อความว่า “ขอขอบคุณคุณยายเรียงและคุณน้าติ๋ม ที่เก็บเงินเอาไว้ให้ แล้วตามหาจนเจอ แล้วคืนเงินให้ เงินเกือบ 3 แสนบาท ทั้งสองไม่แตะต้องเงินเลย เงินอยู่ครบทุกบาทค่ะ เมื่อเช้าเข้าไปหาคุณยายยังให้น้ำให้นมมากินอีก รู้สึกซึ้งในน้ำใจพูดคุยไปน้ำตาไหล จึงขอลงสาธารณะ เพื่อขอบคุณคนดีหนองบุญมากค่ะ เป็นตัวอย่างคนดีทางสังคมมากค่ะ ขอบคุณๆๆๆๆมากๆๆๆค่ะ” พร้อมกับโพสต์ภาพตัวเองถ่ายรูปคู่กับผู้มีบุญคุณเก็บเงินได้ทั้งสอง เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวได้มีการโพสต์แชร์บอกต่อ และมีผู้ที่เข้าไปแสดงความคิดเห็นชื่นชมบุคคลทั้งสองจำนวนมาก

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปติดตามหาเจ้าของโพสต์ดังกล่าว และสองพลเมืองดีที่เก็บเงินเกือบ 3 แสน ส่งคืนเจ้าของ ทราบว่าเจ้าของโพสต์คือ นางปราณีต พลอยกระโทก อายุ 60 ปี เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบุกุดจอด หมู่ที่ 5 ต.หนองหัวแรด อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา ส่วนผู้ที่เก็บเงินส่งคืนสองคนคือ นางอารีย์รัตน์ แสงเลข อายุ 59 ปี เจ้าของร้านขายอาหารตามสั่งข้างที่ทำการอำเภอหนองบุญมาก เลขที่ 319 หมู่ที่ 4 ต.หนองหัวแรด อ.หนองบุญมาก และ คุณยายสำเรียง โศรกใหม่ อายุ 81 ปี มารดาของนางอารีย์รัตน์ ซึ่งกำลังเปิดร้านขายอาหารตามสั่งอยู่ตามปกติ




สอบถามนางปราณีต พลอยกระโทก เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา ตัวเองซึ่งมีตำแหน่งเป็นเหรัญญิกคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน พร้อมด้วยเพื่อนคณะกรรมการฯ อีก 2 คน ได้เก็บเงินดอกเบี้ยเงินออมทรัพย์กองทุนหมู่บ้าน และเงินอื่นๆของกองทุนฯ รวมจำนวน 247,760 บาท แล้วเดินทางไปติดต่อทำเอกสารกับทางอำเภอเพื่อเตรียมที่จะนำเงินทั้งหมดไปส่งให้กับธนาคาร ธกส.สาขาอำเภอหนองบุญมาก ระหว่างนั้นได้แวะที่ร้านอาหารตามสั่งของนางอารีย์รัตน์ เพื่อรับประทานอาหารเที่ยง แต่ด้วยความเร่งรีบในการทำเอกสาร ที่ต้องเร่งให้เสร็จเพื่อนำไปเข้าธนาคารก่อนที่จะปิดทำการ จึงลืมกระเป๋าผ้าที่ใส่เงินสดทั้งหมดเอาไว้ที่ร้านอาหารตามสั่ง และกลับไปทำเรื่องเอกสารต่อโดยไม่เอะใจว่าลืมกระเป๋าเงินทิ้งเอาไว้ กระทั่งเวลาผ่านไปนานเกือบ 2 ชั่วโมง นางอารีย์รัตน์เจ้าของร้าน ก็เดินกระหืดกระหอบมาหา และบอกว่าตนเองลืมกระเป๋าที่บรรจุเงินเป็นจำนวนมาก เมื่อรู้ตัวก็แทบล้มทั้งยืน ทำอะไรไม่ถูก จึงให้เพื่อนตามนางอารีย์รัตน์ไปรับกระเป๋าเงินคืน

เมื่อตั้งสติได้ตัวเองก็ทำเรื่องเอกสารต่อจนเสร็จและนำเงินทั้งหมดไปส่งให้กับทางธนาคาร จากนั้นก็ได้ไปหานางอารีย์รัตน์ที่ร้าน พร้อมกับแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งที่เก็บกระเป๋าเงินเกือบ 3 แสนมาคืน เพราะไม่เช่นนั้นตนเองก็ไม่รู้ว่าจะไปหาเงินจากที่ไหนมาคืนในส่วนนี้ได้ และได้มอบเงินส่วนหนึ่งเป็นค่าสินน้ำใจแต่ไม่ได้มากมายนัก เพราะเงินที่นำมาคืนให้นั้นเป็นของกองทุนฯ หากเป็นของตนเองก็จะมอบให้มากกว่านี้



นางปราณีต กล่าวอีกว่า ต้องขอขอบคุณผู้มีพระคุณทั้งสองเป็นอย่างมากที่ช่วยตัวเองเอาไว้ บุญคุณครั้งนี้จะไม่มีวันลืม และขอนับบุคคลทั้งสองเป็นเหมือนแม่และพี่สาวแท้ๆตราบไป

ทางด้านนางอารีย์รัตน์ แสงเลข ผู้ที่เก็บกระเป๋าเงินส่งคืน บอกว่า ตนเองขายอาหารตามสั่งที่ร้านมานานกว่า 5 ปีแล้ว และนางปราณีต ก็เป็นลูกค้าประจำ รู้จักหน้าค่าตากันดี ในวันนี้นางปราณีต ก็มากินข้าวเที่ยงตามปกติ และก็เห็นว่ากำลังยุ่งเรื่องทำเอกสาร เมื่อกินข้าวเสร็จก็ลุกออกจากโต๊ะไป ช่วงนั้นตนเอยังไม่ได้สังเกตเพราะกำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารให้ลูกค้าที่เข้ามากินอาหารที่ร้านจำนวนมาก กระทั่งเวลาผ่านไปนานกว่า 30 นาที ตนเองจึงมาเก็บโต๊ะ และพบว่ามีถุงผ้าถูกลืมเอาไว้ ตัวเองจำได้ว่าเป็นของนางปราณีต จึงเข้าไปเก็บมาเพื่อไว้จะเอาไปคืนทีหลัง แต่เห็นว่าหนักผิดสังเกต จึงเปิดออกดูและเห็นว่ามีธนบัตรใบละ 1000 บาท สองปึก จึงเรียกบอกนางสำเรียง ผู้เป็นมารดาให้มาช่วยดู ด้านมารดาก็ตะโกนให้ตนเองเร่งไปตามเจ้าของมารับคืน ตนเองจึงวางมือจากทุกอย่าง ออกเดินตามหานางปราณีต ทั่วบริเวณที่ทำการอำเภอ ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมงจึงพบ และนำถุงผ้าที่ใส่เงินทั้งหมดคืนให้ดังกล่าว

นางอารีย์รัตน์ กล่าวว่า ตนเองและมารดาไม่เคยมีความคิดที่จะเก็บเงินก้อนนั้นเอาไว้แม้แต่นิดเดียว เพราะรู้ดีว่าคนที่เป็นเจ้าของจะต้องเดือดร้อนอย่างมากหากทำเงินก้อนนี้หายไป และต้องรีบนำไปส่งคืนเจ้าของให้เร็วที่สุด นางอารีย์รัตน์กล่าวทิ้งท้าย