“วิปรัฐบาล” รอฟังคำวินิจฉัยกลางศาล รธน.ก่อนตัดสินใจลงมติวาระ 3

2021-03-15 17:55:11

“วิปรัฐบาล” รอฟังคำวินิจฉัยกลางศาล รธน.ก่อนตัดสินใจลงมติวาระ 3

Advertisement

“วิปรัฐบาล” รอฟังคำวินิจฉัยกลางศาล รธน.ก่อนตัดสินใจลงมติวาระ 3 หรือไม่ ขณะที่ ภท.ไม่เข้าร่วมประชุม หวั่นมติวิสวนทางมติพรรคหนุนแก้ รธน.

เฉลยแล้วรถ "ปลาวาฬ" ขับเกิดอุบัติเหตุรุ่นไหน?

โต้เซ็กส์จัดไม่ใส่ถุงยาง "ท็อป ณฐกร" เจอสาวแฉใช้กำลังทำร้ายปางตาย !!

รวมเลขเด็ด 10 สำนัก งวดวันที่ 16 มี.ค.2564

เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่รัฐสภา นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมวิปรัฐบาลว่า วิปรัฐบาลต้องรอคำวินิจกลางก่อนว่าเราควรทำแบบไหนเพื่อให้ถูกต้องถึงจะบอกได้ว่าจะลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร เพราะคำวินิจฉัยกลางมีผูกพันทุกองค์กร ตนคิดว่าเย็นวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญน่าจะเสร็จ จากนั้นแต่ละพรรคการเมืองก็จะไปประชุมพรรคและวิปรัฐบาลจะนัดประชุมก่อนประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 17 มี.ค.เวลา 08.00 น. เมื่อถามว่า มีการขู่ว่าถ้าลงมติหรือไม่ลงมติจะยื่นให้ป.ป.ช. นายวิรัช กล่าวว่า ต้องรอคำวินิจฉัยกลางอย่างเดียว แม้แต่ความเห็นของนักวิชาการด้านนิติศาสตร์แตกแยกออกหลายสาขา ถามใครก็บอกว่าต้องรอคำวินิจฉัยกลาง ตนเชื่อว่าศาลเองก็ต้องรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้ ท่านก็คงต้องเร่งทำให้เสร็จโดยเร็ว

เมื่อถามว่าส.ว. จำเป็นต้องลงมติในแนวทางเดียวกับรัฐบาลหรือไม่ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา นัดประชุมวิป 3 ฝ่ายในวันที่ 16 มี.ค.นี้ เวลา 10.00น. เชื่อว่าคำวินิจฉัยกลางน่าจะพิจารณาเสร็จแล้วน่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะลงมติอย่างไรตนก็ต้องชี้แจงเหตุและผล ยืนยันยังไม่มีส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลเสนอให้เลื่อนลงมติวาระสาม และยังไม่ได้คิดหากลงมติไม่ได้จะมีแนวทางอื่นอย่างไร เพราะการลงมติไม่น้อยกว่า 15 วัน แต่ไม่ได้บอกว่าเกินไปเท่าไหร่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมวิปรัฐบาล เวลา 14.00น. เป็นที่น่าสังเกตว่าวิปรัฐบาลตัวแทนพรรคภูมิใจไทยไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วยแต่อย่างใด เนื่องจากเกรงว่ามติวิปรัฐบาลจะออกมาให้ทุกพรรคทำงาน แต่ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคภูมิใจไทยมีจุดยืนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเห็นควรที่จะเดินหน้าโหวตวาระ 3 ซึ่งเรื่องนี้พรรคภูมิใจไทยต้องการให้เป็นเอกสิทธิของแต่ละพรรคการเมืองในการลงมติ