ศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐฯ ชี้บังคับสวม ‘หน้ากากอนามัย’ เอี่ยว ‘ป่วย-ดับ’ โควิด-19 ลดลง

2021-03-08 06:10:17

ศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐฯ ชี้บังคับสวม ‘หน้ากากอนามัย’ เอี่ยว ‘ป่วย-ดับ’ โควิด-19 ลดลง

Advertisement

วอชิงตัน, 7 มี.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันศุกร์ (5 มี.ค.) ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐฯ ได้เผยแพร่การศึกษาชิ้นใหม่ ซึ่งระบุว่าการออกคำสั่งให้ผู้คนสวมหน้ากากอนามัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลดลงของอัตราผู้ป่วยใหม่และอัตราผู้ป่วยเสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) รายวัน ภายใน 20 วันหลังจากการประกาศคำสั่ง

ทางศูนย์ฯ ได้นำข้อมูลระดับเทศมณฑลเกี่ยวกับวันที่ประกาศคำสั่งให้สวมใส่หน้ากากอนามัยและการอนุญาตให้รับประทานอาหารที่ร้านได้ มาเปรียบเทียบกับการเปลี่ยนแปลงของจำนวนผู้ป่วยใหม่และจำนวนผู้ป่วยที่เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ระดับเทศมณฑลเดียวกัน ในช่วงวันที่ 1 มี.ค. – 31 ธ.ค. ของปี 2020

ทั้งนี้ ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการบังคับให้ผู้คนสวมใส่หน้ากากอนามัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลดลงของจำนวนผู้ป่วยใหม่และจำนวนผู้ป่วยเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 รายวัน ภายใน 20 วันหลังการบังคับใช้




นอกจากนี้ การศึกษายังระบุว่า ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น การอนุญาตให้รับประทานที่ร้านอาหาร ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายวันที่เพิ่มขึ้น ในช่วงระหว่าง 41-100 วันหลังจากการอนุญาต และมีส่วนเกี่ยวข้องกับจำนวนผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 รายวันที่เพิ่มขึ้น ในช่วงระหว่าง 61-100 วันหลังจากการอนุญาต

สุดท้ายนี้ ศูนย์ฯ ได้สรุปว่า การบังคับให้สวมใส่หน้ากากอนามัยและการสั่งห้ามรับประทานที่ร้านอาหาร มีส่วนช่วยจำกัดการระบาดของโรคโควิด-19 ในท้องถิ่น ทั้งยังช่วยลดอัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยใหม่และผู้ป่วยเสียชีวิตด้วย