รัฐบาลจีนประกาศตัวเลข งบประมาณรายจ่ายด้านกลาโหม ในปีนี้ เพิ่มขึ้น 6.8 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว แต่ก็ยังน้อยกว่าหลายเท่า เมื่อเทียบกับงบประมาณด้านเดียวกันของสหรัฐ
การประชุมใหญ่ประจำปี พ.ศ. 2564 สภาประชาชนแห่งชาติจีน หรือ เอ็นพีซี (National People’s Congress – NPC ) เริ่มเปิดฉากขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 5 มี.ค. ที่อาคารมหาศาลาประชาชน ใจกลางกรุงปักกิ่ง 1 วันหลังจากเริ่มการประชุมประจำปีของ สภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน หรือ ซีพีพีซีซี (Chinese People’s Political Consultative Conference – CPPCC) ในสถานที่เดียวกัน เนื่องจากเป็นการประชุมสองสภา ควบคู่กันไป หรือที่เรียกว่า เหลี่ยงฮุ่ย โดยการประชุมจะมีติดต่อกันไปจนถึงวันที่ 11 มี.ค.
นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง กล่าวแถลงต่อที่ประชุมเอ็นพีซี ตอนหนึ่ง ว่า รัฐบาลจีนตั้งงบประมาณรายจ่ายด้านกลาโหมในในปีนี้ ไว้ที่ 1.35 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 6.34 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.8 เปอร์เซ็นต์จากปี 2563 และนับเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน ที่ค่าใช้จ่ายกองทัพของจีน เพิ่มขึ้นแบบคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วต่ำกว่าเลข 2 หลัก
นายหลี่ กล่าวว่า นโยบายด้านกลาโหมของจีนในปีนี้ จะเน้นการปฏิรูปทุกมิติ ที่เชื่อมโยงกับความมั่นคง เช่น วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี หรืออุตสาหกรรม เพื่อยกระดับขีดความสามารถของกองทัพ ให้มีความพร้อมตอบสนองต่อทุกสถานการณ์ และความเสี่ยงด้านความปลอดภัยสาธารณะทุกรูปแบบ
การประกาศตัวเลขงบประมาณด้านกลาโหมของจีน ถูกจับตามองจากกลุ่มประเทศตะวันตกอย่างใกล้ชิด และเชื่อว่าตัวเลขรายจ่ายจริง สูงกว่าที่ประกาศมาก แต่ก็นับว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับงบกลาโหมของสหรัฐ ซึ่งในปีงบประมาณปัจจุบันอยู่ที่ 714,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 21.73 ล้านล้านบาท และมีการคาดการณ์ว่า ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นเป็น 733,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 22.31 ล้านล้านบาท ในปีงบประมาณ 2564/2565 ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 1 ต.ค. ปีนี้