เชือดแล้ว"หมอทหาร"ตุ๋นฉีดวัคซีนถึง"เซาท์ซูดาน"

2021-03-02 12:20:26

เชือดแล้ว"หมอทหาร"ตุ๋นฉีดวัคซีนถึง"เซาท์ซูดาน"

Advertisement

ทบ.เชือด "หมอทหาร" ตุ๋นฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ให้กองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจไทย-เซาท์ซูดาน

เตือน! 13 จังหวัด รับมือพายุลูกเห็บ

สุดทน ! “มาช่า” ฟาดเกรียนระรานด่าหยาบคาย-ไม่ให้เกียรติเพศแม่

ฟ้องล้านนึง! "ธัญญ่า" แท็กทีมเมียหลวง "จอย-พิมพ์" เตรียมฉะเมียน้อย (มีคลิป)

เมื่อวันที่ 2 มี.ค. จากกรณีที่โลกโซเชียล เผยแพร่เอกสารกองทัพ ซึ่งส่งถึงเลขาธิการแพทยสภา ให้พิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมแพทย์ทหารซึ่งไปปฏิบัติหน้าที่ยังกองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจไทย-เซาท์ซูดาน เรียกเก็บเงินทหารที่ไปปฏิบัติหน้าที่เป็นค่าวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโค-19 เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หรือ ผบ.ทสส. ชี้แจงว่า ช่วงประมาณต้นปี 2563 เริ่มมีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แพทย์ทหารจากกองทัพบกที่เดินทางไปกับกองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจไทยในเซาท์ซูดาน ได้ทำการฉีดวัคซีนให้กับกำลังพลโดยพลการ ซึ่งการฉีดวัคซีนดังกล่าวมีการเก็บเงินจากกำลังพลประมาณ 20 ดอลล่าร์ต่อคน รวมทั้งสิ้นประมาณ 5 พันดอลล่าร์ ส่งผลให้กำลังพลกองร้อยทหารช่างฯ ทำการร้องเรียนต่อผู้บังคับกองร้อยให้ดำเนินการตรวจสอบ จากนั้นผู้บังคับกองร้อยฯ จึงทำการสอบสวนแล้วแจ้งผลกลับไปยังกองบัญชาการกองทัพไทย ต่อมาได้จัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายเสนาธิการให้ประสานไปยังกองกำลังของไทยกับส่วนของยูเอ็น ก่อนแจ้งเรื่องไปยังกองทัพบก




ผบ.ทสส. ระบุอีกว่า ขณะนั้นผู้แทนสายงานแพทย์ของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น รับทราบเรื่อง จึงชี้แจงว่าการดำเนินการฉีดวัคซีนจะทำโดยพลการไม่ได้ เพราะการดูแลกำลังพลต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งกองทัพไทยต้องพิจารณาจัดการด้วย จึงมีการสอบสวนต่อ และพบว่ามีการกระทำดังกล่าวจริง จึงให้ส่งตัว นายแพทย์รายดังกล่าว กลับมาประเทศไทย กองทัพไทยจึงแจ้งเรื่องให้กองทัพบก สอบสวน เพราะต้นสังกัดของนายแพทย์อยู่กองทัพบก และจากการตรวจสอบพบว่า นายแพทย์รายดังกล่าวขาดราชการ และไม่มาปฏิบัติงานเลย แต่กลับไปร้องเรียนกับหลายองค์กร ประกอบกับบิดาของแพทย์รายดังกล่าวร้องเรียนด้วย ซึ่งเข้าใจว่ากองทัพบกได้ดำเนินการปลดออกจากราชการแล้ว รวมถึงดำเนินการยื่นข้อมูลต่อแพทยสภา เพื่อให้พิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตผู้ประกอบวิชาเวชกรรม เบื้องต้นกำลังพลที่ได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าว ไม่มีใครได้รับอันตราย อย่างไรก็ตาม คงต้องรอผลสอบสวนจากกองทัพบก ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ทั้งนี้เชื่อว่ายูเอ็น จะมีความเข้าใจเพราะเป็นความผิดส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับภาพรวม ซึ่งที่ผ่านมากองทัพไทย แจ้งความคืบหน้าการดำเนินการกับแพทย์รายดังกล่าวให้กับยูเอ็น รับทราบมาโดยตลอด