อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า อาจจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอีก ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ในปี พ.ศ. 2567 แต่ไม่มีแผนที่จะตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่ เพราะไม่ต้องการให้กลุ่มผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันเสียงแตก
ทรัมป์คืนสู่เวทีการเมืองเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่พ้นจากตำแหน่งผู้นำสหรัฐ และนายโจ ไบเดน ของพรรคเดโมแครต เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยทรัมป์ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยเมื่อวันอาทิตย์ (28 ก.พ.) ในงานประชุมใหญ่ประจำปีของซีแพค (The Conservative Political Action Conference : CPAC) กลุ่มนักเคลื่อนไหวและนักการเมืองสายอนุรักษ์นิยม ขนาดใหญ่ที่สุดในอเมริกา ที่โรงแรมไฮแอตต์ รีเจนซี่ ในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ.
อดีตผู้นำวัย 74 ปี กล่าวว่า เขาอาจจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ในปี พ.ศ. 2567 แต่จะไม่ตั้งพรรคการเมืองใหม่ ตามที่มีข่าวลือก่อนหน้านี้ เนื่องจากไม่ต้องการให้พรรครีพับลิกันเสียงแตก ซึ่งนั่นจะหมายถึงการพ่ายแพ้ให้กับพรรคเดโมแครต
ทรัมป์กล่าวโจมตีประธานาธิบดีโจไบเดน ผู้นำคนใหม่ ที่ยกเลิกนโยบายสำคัญหลายอย่าง ที่เขาอนุมัติไว้ โดยเฉพาะนโยบายเกี่ยวกับผู้อพยพ และความมั่นคงเขตแดน ทรัมป์กล่าวว่า ไบเดนทำให้นโยบายสหรัฐเปลี่ยนจาก อเมริกานำหน้า เป็นอเมริกาล้าหลัง (America first to America last)
แม้จะพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดี ให้กับไบเดน เมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว และถูกโจมตีหนักจากเหตุการณ์มวลชนสนับสนุนบุกโจมตีอาคารัฐสภาในกรุงวอชิงตัน ในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา แต่โพลสำรวจบ่งชี้ว่า ทรัมป์ยังได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่และเหนียวแน่น จากกลุ่มผู้สนับสนุนดั้งเดิม โดยผลโพลสำรวจของสำนักหนึ่งในสหรัฐ เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พบว่า 46 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบคำถามกล่าวว่า จะลงคะแนนให้ทรัมป์ หากเขาแยกตัวออกจากพรรครีพับลิกัน และตั้งพรรคการเมืองใหม่.