ตร.ยันแจ้งข้อหาหนัก"ม็อบ"วางเพลิง-เผาทรัพย์

2021-03-01 20:05:27

ตร.ยันแจ้งข้อหาหนัก"ม็อบ"วางเพลิง-เผาทรัพย์

Advertisement


รอง ผบช.น.ยันแจ้งข้อหาหนัก "มือเผา" ทรัพย์สิน ตร. พ่วงทำร้ายสารวัตร สน.ดินแดง

"สาวทุ่งใหญ่"สุดเฮงซื้อเลขตู้วัคซีนรับทรัพย์ 6 ล้าน

ผิดหวัง"ชายไทย"สมัคร"ทหารเกณฑ์"ไม่ถึงหมื่นราย

กกต.จ่อเคาะสถานะ"5 ส.ส.กปปส."ถูกจำคุกพรุ่งนี้



เมื่อวันที่ 1 มี.ค. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พร้อม พ.ต.อ.พงษ์จักร จักษุรักษ์ รอง ผบก.น.1 และ พ.ต.อ.รัฐชัย ศรีวิชัย ผกก.สน.ดินแดง ประชุมตามความคืบหน้าการดำเนินคดีผู้ชุมนุมที่ทุบทำลายทรัพย์สินของทางราชการ และทำลายอาคาร สน.ดินแดง จนได้รับความเสียหายในคืนวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา โดย พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า มาติดตามผลการตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น 3 ส่วน คือ 1.การจับกุมผู้ชุมนุมที่บริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 1 หลายสิบราย 2.การทำลายทรัพย์สินที่ สน.ดินแดง ซึ่งพบว่ามีรถกระบะ และรถจักรยานยนต์ของราชการ รวมถึงตัวอาคารได้รับความเสียหาย โดยรถยนต์ถูกเผาจนใช้การไม่ได้ และยังมีทรัพย์สินของเอกชนและประชาชนโดยรอบได้รับความเสียหาย ซึ่งต้องตามเจ้าของมาแจ้งความร้องทุกข์พร้อมประเมินค่าความเสียหาย สำหรับผู้กระทำผิด จะเข้าข่ายความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ ทำให้เสียทรัพย์ และทำให้เสียทรัพย์ซึ่งสาธารณะประโยชน์ และ 3.เรื่องการทำร้ายร่างกายสารวัตรสืบสวน สน.ดินแดง ที่สืบสวนหาข่าวในถนนวิภาวดี ซึ่งต้องแยกอีกหนึ่งสำนวน ซึ่งกำลังตรวจสอบหาผู้กระทำผิด โดยพบว่ามีผู้อยู่ในเหตุการณ์ 8-10 ราย มี 2-3 รายเข้าไปผลักจนล้มแล้วรุมทำร้าย ซึ่งต้องดูว่าทั้งหมดเกี่ยวข้องกันหรือไม่


รอง ผบช.น. กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานเชื่อว่า ผู้ที่เข้ามาทำลายทรัพย์สิน สน.ดินแดง เป็นกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาจากถนนวิภาวดีฯ จึงขอเตือนว่าการชักชวนโฆษณา และผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมล้วนกระทำผิดกฎหมายฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ กทม.ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด นอกจากนี้ยังมีชาวเมียนมา หลายคนขึ้นรถขยายเสียงมาร่วมชุมนุมด้วย ขนะนี้กำลังพิสูจน์ทราบตัวบุคคล ซึ่งต้องถูกดำเนินคดีด้วย ส่วนกรณีที่ตำรวจเข้าควบคุมนักข่าวสำนักหนึ่ง เนื่องจากขณะนั้นตำรวจไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นผู้สื่อข่าวหรือผู้ชุมนุม อย่างไรก็ตามหากมีหลักฐานระบุตัวตนว่าเป็นสื่อมวลชน พนักงานสอบสวนจะสั่งไม่ฟ้อง แต่ถ้าหากไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นสื่อมวลชนจริง ก็ต้องทำไปตามกระบวนการของกฎหมาย ส่วนกรณีมีนักข่าวถูกกระสุนยางยิงใส่นั้น ตำรวจไม่สามารถแยกแยะได้ว่าใครคือสื่อมวลชน ม็อบ หรือแพทย์อาสา จึงขอความร่วมมือสื่อที่เข้าติดตามเหตุการณ์ให้ลงทะเบียนเพื่อรับปลอกแขนสื่อมวลชนที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ตำรวจนครบาล ซึ่งสัญลักษณ์ปลอกแขนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการอบรมจนสามารถแยกแยะได้ว่าใครเป็นใคร และถ้าหากคนกลุ่มนี้ถูกลูกหลงก็จะได้รับการเยียวยาอย่างแน่นอน