"เก้า จิรายุ" ดินหน้าลุยทำอัลบั้มแรกในชีวิต

2021-02-26 15:30:21

 "เก้า จิรายุ" ดินหน้าลุยทำอัลบั้มแรกในชีวิต

Advertisement

คุ้นหน้าคุ้นตากันดีทีเดียวสำหรับ"เก้า จิรายุ ละอองมณี" ที่หลายคนมักจะเห็นใบหน้าของเขาผ่านทางหน้าจอกับหลายบทบาท และนี่ก็เป็นอีกบทบาทหนึ่งที่เก้า จิรายุ รักมากเลยก็ว่าได้สำหรับเส้นทางสายดนตรี เจ้าตัวจึงได้รวมตัวกับเพื่อนสุดซี้ "กลอง ฐาฬ์ กุณฑลบุตร"  (ร้องนำ) มาตั้งวง Bad Baboon (แบดบาบูน) พร้อมกับดึง "โดม วีรยุทธ์ ห่อนาค" (กลอง) และ "บอม วิชาวัฒน์ บุดดาบุญ" (เบส) มาเสริมทัพสร้างสีสันทำให้ดนตรีเต็มรูปแบบมากยิ่งขึ้น โดยเก้าที่อยู่ในฐานะสมาชิกวง Bad Baboon (แบดบาบูน) นั้นหน้าที่ประจำตำแหน่งคือ มือกีตาร์ ที่ใครต่อใครเห็นลีลาการเล่นของเขาแล้วเรียกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ล่าสุดเคลียร์คิวว่างมาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 เก้า ที่ได้มาย้อนเล่าถึงช่วงแรกที่เข้าวงการบันเทิงแล้ว ยังยกวง Bad Baboon (แบดบาบูน) มาให้ได้รู้จักกันมากขึ้นอีกด้วย



เข้าวงการ คือ ละครเลยไหมเก้า?



เก้า จิรายุ : ผมเข้าวงการผมไม่รู้ว่าจะเรียกยังไงถ้าเป็นงานถ่ายทำผมก็เริ่มจากงานโฆษณาก่อน ถ้างานโฆษณาเริ่มตั้งแต่ 2 ขวบเลยครับ (อันนี้คุณแม่เล่าให้ฟังนะครับ) แต่ที่เริ่มจำได้ก็คือ 6 ขวบมาเล่นละครเต็มๆเรื่องแรก ตอนนั้นถามว่าจำได้ไหม ถ้าตอน แก้วตาพี่ จำได้แล้วครับ เพราะว่าตอนนั้นเราก็เรียนชั้นประถมแล้วแล้วตอนนั้นได้ไปต่างประเทศด้วย ไปฝรั่งเศสก็เป็นเรื่องแรกที่ได้ไปถ่ายที่ต่างประเทศก็รู้สึกว่าเราโชคดีที่ได้ไปเที่ยวแล้วตอนนั้นเราก็ขอหยุดเรียนไป 1 เดือน ตอนนั้นที่พอเรารู้ว่าเราจะได้ไปถ่ายที่ต่างประเทศแล้วมันก็อากาศหนาว เราเด็กอยู่ตอนนั้นชอบอยู่แล้ว และเขาก็บอกผมว่ามันจะมีวันว่างอยู่แล้วได้ไปเที่ยวเพราะที่นั่นมี ดิสนีย์แลนด์ พอเราได้ยินคำว่า ดิสนีย์แลนด์ ก็หูพึ่งเลยครับ เราก็ได้ไปเที่ยวจริงๆที่ ดิสนีย์แลนด์ วันเดียวที่เหลือคือ ทำงานหมดเลยครับ

หลังๆก็จะมาเห็นเก้ามาสนใจในเรื่องของดนตรี จุดเริ่มต้นมาจากอะไร?

เก้า จิรายุ : จริงๆผมเล่นดนตรีกับเพื่อนมาตั้งแต่เด็กๆแล้วครับ คือเราก็เล่นเป็นความสนุกก่อน คือมันเริ่มเล่นดนตรีกับเพื่อนตอนประมาณม.2 ครับ คือเพื่อนเขาเล่นกันอยู่แล้วเรารู้สึกว่าอยากเล่นด้วย เราก็ได้ไปเรียนกีตาร์อะไรนิดๆหน่อยๆแต่ว่าเรารู้สึกว่าอยู่ในวงเล่นกับเพื่อนมันเท่ห์ครับ



เราเรียนรู้การเล่นดนตรี โดยผ่านการเรียนไหม?

เก้า จิรายุ : ผมเคยเรียนแรกๆต้องไปเรียนอาทิตย์ละครั้ง เรารู้สึกว่าสำหรับเรามันช้า เรารู้สึกว่าเราเล่นกับเพื่อนจะเป็นเร็วกว่าครับ เรามาฝึกเองทั้งหนังสือเพลง ทั้งกลุ่มเพื่อนๆคอยสอนพอเราเล่นมาเรื่อยๆยูทูปมันเริ่มแพร่หลายเราก็เลยฝึกจากตรงนั้นด้วยส่วนหนึ่ง แล้วเราทั้งแกะเพลงด้วย แล้วก็เล่นมัวๆไปเรื่อยๆ แต่ถามว่ามันยากไหม ทุกวันนี้ ผมว่ามันยังยากอยูเลยครับ คือ มันก็ไม่ได้ง่าย แต่มันก็แค่เล่นได้ในระดับหนึ่งแต่ว่าถ้าเราไปเทียบกับมือกีตาร์เทพๆที่เขาเก่งมากๆเราก็ยังทำแบบเขาไม่ได้ เราก็รู้สึกว่าเอาที่เรามีความสุขก็คือ อยากมีเพลงเป็นของตัวเรา เราก็เลยไปเน้นเป็นมือกีตาร์ที่เน้นการสร้างเพลงมากกว่า เราคิดอะไรที่เราทำแล้วรู้สึกสบาย รู้สึกสนุกมันส์ กับมันแล้วทำให้มันเป็นเพลงของเราเอง เราก็รู้สึกภูมิใจมากกว่า ถ้าเป็นของวง Bad Baboon ที่ทำอยู่เราก็จะคิดของเราเองหมดเลย อย่างสมาชิกวงเรามีทั้งหมด 4 คน แต่ละคนก็จะคิดพาสของตัวเอง

ช่วงหนึ่ง    เก้าดังมาจากหนังเรื่องหนึ่ง Suck Seed ที่เป็นดนตรีตอนนั้น เก้าร้องเพลงในหนังด้วย ซึ่งเพลงดังมากเลยตอนนั้น?

เก้า จิรายุ : ตอนนั้นที่ผมไปร้องเพลงประกอบ Suck Seed ผมไม่ได้รู้สึกว่าผมร้องเพลงดี หรือ ร้องเพลงได้ด้วยซ้ำ เพราะผมก็เคยไปออกรายการแล้วผมก็ร้องเพลงก็มีหลายคนบอกว่าร้องไม่เห็นดีเลยเราก็เสียความมั่นใจไปแล้ว แต่โชคดีว่าที่ พี่เก้ง ทีม GTH ตอนนั้นเขาให้โอกาสเขาก็บอกเราว่าร้องได้ร้องไปเถอะเอาจนมันดีครับ ตอนนั้นเราก็ใช้เวลาในห้องอัดค่อนข้างนานเหมือนกันเพราะประสบการณ์เราก็น้อย แล้วมันดันเป็นเพลงที่ออกมาดีแล้วเราก็ชอบเพลง ทุ้มอยู่ในใจ ก็เรารู้สึกดีมีความมั่นใจมากขึ้น เราออกไปร้องที่ต่างๆคนก็ร้องเพลงเราได้เราก็มีความสุข อย่างทุกวันนี้ ที่เราทำเราอยากทำแนวเพลงที่มันหนักเพราะเหมือนเราโตมากับพวก Rap Rock เป็นดนตรีหนักๆแต่ถามว่าเราแร๊พได้ไหมเราก็แร๊พไม่ได้มันก็ไม่ใช่ทางผมขนาดนั้น แต่ทีนี้มีเพื่อนที่เรารู้สึกว่าเขาแร๊พได้นะเลยมารวมตัวกันครับ เราก็เลยได้เล่นกีตาร์ในแบบที่ไม่ต้องอั้นอะไร เราก็ปล่อยใส่เต็มมันๆไปให้มันสุดไปเลย

ถ้ามองนะบทบาทที่คนจะเห็นเก้ามากที่สุดก็คงเป็นการแสดง เล่นดนตรี ร้องเพลง ชอบอะไรที่สุด?

เก้า จิรายุ : ตอนนี้ด้วยสิ่งที่ทำอยู่มันเป็นชาเลนจ์ด้วยเหมือนเราก็ทำวงดนตรีมาจากหนึ่งเหมือนเราก็ไม่ได้มีต้นทุนอะไร ผมกลับคิดว่าที่เรามีชื่อเสียงมาก่อนแล้ว มันกลับทำให้เกิดอคติด้วยซ้ำไป รู้สึกว่ามันอาจจะติดลบในมุมมองของคนบางคนด้วยซ้ำไปเราก็เลยรู้สึกมันท้าทายดีครับ ผมก็รู้สึกว่าสิ่งนี้ผมอยากที่จะพิสูจน์มากกว่า หลายๆครั้งที่คนมาดู Mv หรือว่าฟังเพลงของวงแล้วรู้สึกว่ามัน ชอบ มันเท่ห์ ยุคนี้มันไม่มีแบบนี้เท่าไหร่ แล้วเขาเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเราอยู่ในวงนี้ด้วยเราก็อยู่สึกยังไงล่ะ (ยิ้มๆ)





พูดมาขนาดนี้แล้วมาแนะนำให้รู้จักกับวง Bad Baboon กันบ้างดีกว่าเริ่มต้นวงได้ยังไง และทำไมถึงชื่อ Bad Baboon?

กลอง วง Bad Baboon : เริ่มจากเก้าเขามาชวนผมทำวงก่อนตอนแรกจะมีแค่สองคนก็คุยกันว่าอยากได้ชื่อวงแบบเท่ห์ๆหน่อยให้มันดูจำได้ก็เลยไปแยกกันคิดมา ตอนแรก เก้า คิด เป็นโจโจ้ จังเกิ้ล แล้วก็มีชื่อหนึ่งที่หลุดมาเป็น Baby baboon สุดท้ายเราก็เลือก Baby baboon แล้วเราก็เอาไปให้เพื่อนวางโลโก้วงให้แล้วโลโก้ที่วาดออกมามันดุไปเหนื่อยครับ เราก็เลยเปลี่ยนจาก Baby เป็น Bad baboon แสดงว่าวงเริ่มต้นจากเราสองคนก่อนแล้วก็ตามมาด้วย พี่โดม และ บอม คือสมาชิกคนล่าสุดครับ

Bad baboon เป็นวงดนตรีแนวอะไร?

เก้า จิรายุ : เป็นดนตรี Rock ครับ ที่เราก็ไม่แน่ใจว่าคือ Rock แบบไหนเหมือนกันเพราะในพาสของการร้องเป็น แร๊พส่วนใหญ่ ถ้าในยุคหนึ่งเขาจะเรียกว่า นูเมทัล แต่เราก็ไม่แน่ใจว่าเราเป็นแบบนั้นหรือเปล่า คือ จริงๆกลุ่ม เมทัล ที่หนักกว่าพวกผมมีเยอะมากแต่ก็อาจจะไม่ได้เป็นที่วงกว้างมาก เพราะแนวจะเป็นแนวดนตรีที่คนไม่ได้ฟังกันหลากหลาย แพร่หลาย สำหรับวงเรานับว่าอยู่กึ่งๆกลางๆระหว่างสุดทางไปเลยกับ Pop ต้องลองฟังครับ ว่าจะหนักแค่ไหนอยู่ที่มุมมองครับ



เพลงเอาแฟนเก่ากูคืนมา ความพิเศษของเพลงนี้แต่งขึ้นมาจากชีวิตจริงของสมาชิกในวงด้วย?

กลอง วง Bad Baboon : เป็นของผมเองครับ คือ ผมเคยคุยกับ เก้า ว่าผมอยากแต่งเพลงรักครับ ในมุมมองอีกแบบหนึ่งตอนนั้นผมทำงานอยู่ออฟฟิศแล้วก็โทรหา เก้า ว่าเขียนท่อน Hook ได้แล้วเราก็ร้องให้ เก้า ฟัง เก้า เขาก็ไปทำดนตรีมาซึ่งเนื้อหาของเพลงจริงๆคือ เรายังคิดถึงผู้หญิงคนนี้อยู่

Mv ของเพลง เอาแฟนเก่ากูคืนมา เป็น Mv ที่ปั่นกระแสโซเชียลมากๆเลย ซึ่งตอนแรกไม่คิดว่าจะทำ Mv ด้วย?


เก้า จิรายุ : คือเราไม่รู้ว่าจะทำ Mv ยังไงเราเลยคิดกันว่าเดี๋ยวปล่อยเป็นแค่เพลงเฉยๆแล้วกันไม่ต้องมี Mv แล้ววันนั้นนั่งกันอยู่ห้องซ้อมก็คิดว่าถ่าย Mv กันเลยแล้วกันเราก็ถ่ายกันเลยครับในห้องซ้อม ซึ่งเราก็ใช้กล้องของคอมพิวเตอร์ครับ ก็ตั้งไว้อยากทำอะไรก็ทำครับ แล้วก็ส่งไปให้พี่บาสเขาตัดต่อให้ก็ออกมาอย่างที่เห็นเลยครับ



มันมีความแนวอยู่สูงมาก ก็ต้องมีคนทั้งชอบและไม่ชอบ รวมถึงเพลงด้วย?

เก้า จิรายุ : มีทุกเพลงอยู่แล้วครับ เพลงแรกที่ผมทำคือ Yesแม่ แปลว่า ใช่ครับแม่ เพลงที่สอง ข้าวราดแกง และเพลงที่สาม อับดุล เป็นเพลงดีหน่อยเป็นเพลงที่พูดถึงเรื่องปรัชญาอะไรบางอย่าง ทุกเพลงจะมีกลุ่มคนที่ไม่ชอบอยู่แล้ว เขาก็เข้ามาคอมเมนต์ต่างๆนานาเราก็ไม่ได้คิดมากอะไรอยู่แล้วครับ เพราะคนมันโดนด่าอยู่แล้วในสังคมอินเตอร์เน็ตหรือว่าทั่วไป ยังไงมันก็มีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบ

คาดหวังอะไรจากการที่เราคือ วง Bad Baboon?
บอม วง Bad Baboon : ผมก็คาดหวังว่าแนวดนตรีที่เราชอบ วงชอบ มันน่าจะเดินทางไปได้ในทางของมันแบบสุดทางสักวันหนึ่ง ตอนนี้เราก็กำลังรวบรวมเพลงของเราให้ออกมาเป็นอัลบั้ม แต่ก็ยังไม่มีกำหนดนะครับ ว่าเสร็จเมื่อไหร่ แต่คิดว่าเสร็จปีนี้แน่นอนครับ เพราะตอนนี้ทำไปแล้ว 60 เปอร์เซ็นต์