ชิคาโก, 24 ก.พ. (ซินหัว) — การสำรวจของมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น (NU) และมหาวิทยาลัยรัฐโอไฮโอของสหรัฐฯ ซึ่งยังคงดำเนินการในปัจจุบัน พบว่าชาวอเมริกันกังวลการเสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) น้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ และยังคงมีการรับรู้ความเสี่ยงติดเชื้อในภาพรวมเหมือนเดิมตลอดช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์
“ในเดือนธันวาคม ชาวอเมริกันเชื่อว่าหากป่วยเป็นโรคโควิด-19 แล้วพวกเขามีโอกาสเสียชีวิต 1 ใน 3” เอริก นิสเบ็ต ศาสตราจารย์ด้านการสื่อสารและการวิเคราะห์นโยบาย ซึ่งเป็นผู้อำนวยการศูนย์การสื่อสารและนโยบายสาธารณะของมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์นกล่าว “หลังจากผ่านมาสองเดือน พวกเขาคิดว่าโอกาสเสียชีวิตหลังติดเชื้อกลายเป็น 1 ใน 4 สิ่งที่น่าสนใจคือพวกเขายังรู้สึกว่าตนเองมีโอกาสติดเชื้อเท่าเดิม”
การศึกษา “มุมมองของสาธารณชนต่อการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19” ที่จะเก็บข้อมูลจากชาวอเมริกัน 1,200 คน เป็นประจำทุกเดือนระหว่างเดือนธันวาคม 2020 – มิถุนายน 2021 ติดตามทัศนคติเกี่ยวกับความเสี่ยง การตัดสินใจ นโยบายที่ชื่นชอบ และพฤติกรรมการป้องกันสุขภาพ โดยผู้มีส่วนร่วมจะตอบคำถามเกี่ยวกับกฎสวมหน้ากากอนามัยและคำสั่งฉีดวัคซีน ข้อจำกัดในบาร์ ร้านอาหาร และศาสนสถาน ความยินยอมพร้อมใจหรือความลังเลในการฉีดวัคซีน การเข้าถึงและประสิทธิภาพของวัคซีน รวมถึงแหล่งข้อมูลหลักเพื่อติดตามสถานการณ์ของโรคโควิด-19
การศึกษาข้างต้นพบว่าแม้บางรัฐของสหรัฐฯ เริ่มผ่อนปรนกฎสวมหน้ากากอนามัยแล้ว แต่ประชาชนยังสนับสนุนกฎนี้อย่างแข็งขันไม่เปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่เดือนธันวาคม โดยร้อยละ 61 ของผู้ตอบแบบสอบถามต้องการให้รัฐบังคับประชาชนสวมหน้ากากต่อไป
นอกจากนี้การศึกษาพบว่าราว 4 ใน 10 ของชาวอเมริกันที่ตอบแบบสอบถาม “ยอมรับการฉีดวัคซีน” โดยมีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะฉีดวัคซีน ขณะที่ 1 ใน 4 “ลังเลจะฉีดวัคซีน” พวกเขาอาจจะไปฉีดหรือไม่ไปฉีดก็ได้ และมีชาวอเมริกันราว 1 ใน 3 ที่ “ต่อต้านวัคซีน” โดยผลสำรวจส่วนนี้ไม่มีความเปลี่ยนแปลงมากนักตลอดช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
ผู้ตอบแบบสอบถามที่แสดงความลังเลส่วนมากเป็นผู้หญิง คนผิวดำ หรือผู้นับถือศาสนา พวกเขาสนใจจะติดตามข่าวสารใหม่ๆ น้อยกว่าคนกลุ่มอื่น ไม่เชื่อถือผู้ให้บริการและผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข ไปฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ประจำปีน้อยกว่าคนกลุ่มอื่น นอกจากนี้พวกเขายังมองว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ไม่ปลอดภัยและอาจด้อยประสิทธิภาพ
ร้อยละ 23 ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าแหล่งข่าวสำคัญที่พวกเขาติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คือสื่อมวลชนอย่างหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ และเว็บไซต์ข่าวสาร ร้อยละ 18 รับข่าวสารจากหน่วยงานสาธารณสุขกลางอย่างศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ส่วนร้อยละ 11 ติดตามข่าวจากผู้ให้บริการด้านสาธารณสุขและนักวิทยาศาสตร์ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนน้อยรับข่าวสารจากสื่อสังคมออนไลน์และเจ้าหน้าที่รัฐในระดับต่างๆ