ไม่ได้สร้างกระแส "ลาล่า" รับพา "เล็ก เจษฎา" ผู้ข้อมือตามประเพณีอีสาน

2021-02-24 13:50:20

ไม่ได้สร้างกระแส "ลาล่า" รับพา "เล็ก เจษฎา" ผู้ข้อมือตามประเพณีอีสาน

Advertisement

กลายเป็นข่าวลือที่หลายคนจับตามองหลังมีเพจดังออกมาเผยว่าสาว"ลาล่า ขวัญนภา เรืองศรี " ควง "เจษฎา รุ่งสาคร" ไปบ้านทางภาคอีสานและเข้าพิธีแต่งงานผู้ข้อไม้ข้อมือกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ล่าสุดสาวลาล่าได้ออกมาเผยถึงข่าวลือนี้ว่า


อันนี้ไม่จริงค่ะ แต่ยอมรับว่าพี่เค้าไปบ้านของลาล่าจริงๆค่ะ แล้วพ่อกับแม่ก็ผูกข้อไม้รับมือพี่เค้าจริงๆตามประเพณีอีสานซึ่งก็เป็นไปตามที่ลูกๆหลานๆไปบ้านปกติค่ะ คนเฒ่าคนแก่ก็จะผูกข้อมือรับขวัญ ทุกครั้งที่ลาล่ารู้สึกเหนื่อย หมดกำลังใจ พ่อก็จะผูกแขนให้เหมือนเรียกขวัญลูกกลับบ้านอะไรอย่างเงี้ย อย่างการไปบ้านครั้งนี้เราก็ไปเป็นหมู่คณะคือเราตั้งใจไปเที่ยวบ้านและเค้าก็ตั้งใจไปสวัสดีพ่อกับแม่เราด้วยแหละ ทางบ้านลาล่าก็เปิดไม่ได้ปิดเรื่องนี้ ยิ่งถ้าเป็นงานแบบนี้ตามที่ข่าวออกมาด้วยแล้วคือมันปิดไม่ได้อยู่แล้วนะคะ บ้านของลาล่าเป็นข้าราชการด้วยยิ่งปิดไม่ได้อยู่แล้ว ซึ่งการจะทำอะไรเราต้องให้เกียรติพ่อกับแม่เราอยู่แล้ว อย่างข่าวที่ออกไปชาวบ้านข้างๆ อาจจะเห็นและพูดต่อกันไป แต่เราก็คิดว่าไม่เป็นไรและคนที่ไปบ้านลาล่าก็ถือเป็นลูกของพ่อกับแม่ลาล่าหมด ซึ่งพ่อกับแม่ก็พูดแบบนี้หมดค่ะ

อย่างการไปครั้งนี้ของพี่เค้าก็ไปในฐานะพี่ชายก่อน คือลาล่าก็โดนอะไรหลายๆอย่างพี่เค้าก็อยากไปให้พ่อกับเเม่เราสบายใจเพราะข่าวทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันเกิดจากเราสองคนและเราก็เป็นผู้หญิง พี่เค้าก็บอกว่าอยากไปบ้านอยากไปเจอ ซึ่งมันเป็นปกติที่เราไปเจอแม่เค้าและเค้ามาเจอบ้านเรา

ทางคุณแม่ก็เป็นห่วงเราเพราะเราเป็นผู้หญิง พอเราเป็นข่าวต่างๆชาวบ้านก็ลือกันไปต่างๆนานา เวลาคนมาบูลลี่หรือด่าเราแม่ก็จะโทรมาบอกว่าทำไมเค้าถึงด่าลูกแม่แบบนี้ หรือลูกจะเลิกคุยหรือเลิกกับเล็กไปเลย คือจริงๆมันไม่ได้ขนาดนั้น คือมันไม่ได้เป็นปัญหาของเรา แต่มันเป็นปัญหาของเค้าที่เข้ามาคอมเมนต์เรา คือแม่จะให้หนูตัดพี่น้องออกไปมันเป็นไปไม่ได้ เค้าคือพี่ของเรา หนูก็บอกไปว่าแม่อย่าไปอ่านเลยเพราะหนูไม่สามารถคอนโทรลคนพวกนี้ได้ ฉะนั้นอย่าไปให้ค่าเดี๋ยวกฎหมายจะจัดการเค้าเอง ก็มีการเตือนไปหลายครั้งแล้ว และถ้าเค้าไม่ฟังเราก็ให้กฎหมายจัดการเค้าไป 


สถานะเราสองคนตอนนี้เราคุยกันเป็นเพื่อนเป็นพี่น้องกัน เรายังเลื่อนสถานะไปตรงนั้นไม่ได้ ด้วยงานของเราสองคน ด้วยสิ่งต่างๆที่เราชอบไม่เหมือนกัน อะไรจะเกิดขึ้นก็ขอให้พัฒนาไปในสิ่งที่ดีๆ ตอนนี้เป็นได้แค่พี่น้องที่ดีต่อกัน เราคุยกันปกติ เค้าไปบ้านหนูก็เหมือนเป็นลูกชายของพ่อแม่หนูคนนึง เราเข้าใจคนที่เชียร์นะและรู้สึกตื่นเต้นกับแรงเชียร์ เค้าอินไปกับเราทำให้เรารู้สึกกดดัน ทางพี่เค้าก็กลัวเลยทำให้เราต้องปรับตัวกันใหม่ว่าเค้ารักเราเค้าถึงคอมเมนต์เรา

เรื่องที่คนมองว่าพิธีนี้เป็นพิธีทางภาคอีสานเราอ่านนะและตลกกับคำว่าผิดผี มีการแตะเนื้อต้องตัวกัน อยากให้กลับไปดูภาพดีๆว่าใครแตะเนื้อต้องตัวใคร(หัวเราะ) ถ้าจะบอกว่าผิดผีผู้ชายทุกคนต้องรับผิดชอบลาล่าแล้วค่ะเพราะลาล่าวิ่งกอดผู้ชายก็คงได้สามีเยอะค่ะ(หัวเราะ) หล่อด้วย รวยด้วย คนที่เราวิ่งไปกอดอ่ะ และบ้านเราไม่ได้นับถือผี พ่อแม่เรารักคนที่เรารัก เลี้ยงด้วยความอิสระ ทุกครั้งที่มีปัญหาเราจะปรึกษาพ่อแม่ก่อน การที่เราพาพี่เค้าไปบ้านแปลว่าเราไม่ได้นอกลู่นอกทางนี่คือเพื่อนของเราทั้งหมด เราจะเล่าทั้งหมดว่าไปไหนมาไหนกับพี่เค้าเพื่อให้พ่อกับแม่ไม่รู้สึกตกใจ อย่างประเพณีอีสานเรื่องการผูกข้อไม้ข้อมือมันเป็นเรื่องปกติค่ะ อย่างชุดที่ใส่เหมือนกันก็คือพี่เค้าไปอีสานก็อยากแต่งตัวตามนี้และเผื่อทำคลิปมาฝากแฟนๆด้วย การไปครั้งนี้คือเราไปกับเพื่อนๆรถตู้คันใหญ่เลยค่ะ 

พ่อแม่ก็บอกพี่เค้าว่าดูแลน้องด้วย เค้าก็รับปากค่ะ พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ถามถึงการพัฒนาความสัมพันธ์ของเราเพราะเราจะไม่คุยเรื่องนี้กัน คือถ้าเราไม่ชัวร์เราจะไม่พาพี่เล็กไปในรูปแบบนั้น การที่พี่เล็กไปบ้านครั้งนี้ถือว่าเค้าเป็นพี่ชายของเรา เราต้องไปทำความรู้จักครอบครัว และถ้ามีการพัฒนาไปในรูปแบบนั้นต้องมีพ่อแม่พี่เล็กไปด้วย ซึ่งอันนี้คือการไปเที่ยวค่ะ 

ถามถึงเรื่องที่พี่ลูลู่มีการโพสต์ถามว่าทำไมเค้าถึงไม่รู้ คืออันนี้กลายเป็นดราม่าหนักมาก คือตัวลู่โพสต์เพราะประชดข้อความพวกนั้นที่บอกว่าเป็นงานแต่งผิดผี คือนางก็งงว่าเธอจะแต่งได้ยังไงเพราะฉันก็อยู่กับเธอตลอด นางโพสต์ประชดข้อความเหล่านั้นเฉยๆ  มันไม่มีทางที่จะเป็นความลับ วันนี้เรารู้จักกันคุยกันเราก็บอกให้ทุกคนรู้อยู่แล้ว เรื่องแต่งงานมันไม่มีทางค่ะ เรากับลูลุ่ไม่มีการผิดใจอะไรกันค่ะแค่ประชดข้อความนั้นเฉยๆ 


อย่างบางคนก็มองว่าเราสร้างกระแสโปรโมท คือเรื่องนี้มันเป็นจังหวะสามช่าในชีวิตมากเลยและทุกคนเล่นไม่ตอบอะไรกันเลย เราขอชี้แจงว่ามันไม่ได้มีการโปรโมทอะไรเลย แค่เราสู้กับปัญหาที่ต้องเจอ สู้กับปัญหาบูลลี่กับใครก็ไม่รู้ เราต้องใช้กำลังใจในการสู้ อันนี้เราไม่สามารถห้ามความคิดของใครได้ เราต่างก็มีธุรกิจก็ไม่แปลกที่คนจะมองแบบนั้น ลาล่าจะปล่อยข่าวแต่งงานไปทำไมในเมื่อความสัมพันธ์ของเรายังไม่ได้พัฒนาไปถึงการแต่งงาน และการจะทำอย่างนั้นคือพ่อแม่เราเป็นคนมีชื่อเสียงในอำเภอคือเราไม่เอาครอบครัวเรามาเล่นกับกระแสแบบนี้เด็ดขาด เราจะไม่ใช้คนรักของเรามาเป็นเครื่องมือทำมาหากินค่ะ ถ้าเราคิดจะทำจริงๆมันต้องทำด้วยใจค่ะ เรารู้สึกเหนื่อยค่ะ ต้องขอบคุณคนที่เอ็นดูและติดตามเรา(ร้องไห้) บางคนบอกว่าเราขายรถเพราะตกอับหรอ ต้องบอกเลยว่าไม่ได้ตกอับแต่เพื่อพยุงชีวิต ถึงเราไม่มีรถขับแต่เรายังมีผู้จัดการมีเพื่อนที่คอยดูแลเราอยู่ เรายังมีพลังที่จะสู้ค่ะ วันนี้เราล้มเหลวกับการทำธุรกิจหลายๆอย่างและทำไมเราต้องแบกภาระที่ไม่จำเป็นไว้ วันนี้เราอยากจะเข้มแข็งกับกระแสตรงนี้ เราต้องอยู่กับกระแสด้านบวกด้านลบให้ได้ ต้องขอบคุณแรงกดดันที่ทำให้เราเข้มแข็งขึ้น ในอนาคตเราอาจเลิกกับพี่เล็กแต่ความสัมพันธ์เราสองคนยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอยู่ ณ ปัจจุบันนี้ 

เรื่องการเอาเรื่องคนที่เข้ามาบูลลี่นั้นเราเอาจริงแล้วค่ะเพราะเคยเตือนไปแล้ว ตอนนี้เราก็ได้ปรึกษาทางทนายในเมื่อเค้าไม่หยุด เราเตือนแล้ว เราเลยใช้กฎหมายในการจัดการเค้า หลังจากนี้เราจะไม่เตือนและแคปข้อความไว้แล้วส่งให้ทางทนายเลยค่ะ ตอนนี้เราส่งเรื่อยๆเลยค่ะ มีบางคำที่อาจเป็นแค่คำวิจารณ์ค่ะ