เหมือนเป็นไบโพลาร์ เศร้าก็ไม่ได้สุขก็ไม่สุด ! "เต้ย ธโนทัย" ช้ำหนักรักพังทลาย

2021-02-23 08:50:32

เหมือนเป็นไบโพลาร์ เศร้าก็ไม่ได้สุขก็ไม่สุด ! "เต้ย ธโนทัย" ช้ำหนักรักพังทลาย

Advertisement

เหมือนเป็นไบโพลาร์ เศร้าก็ไม่ได้สุขก็ไม่สุด ! "เต้ย ธโนทัย" ช้ำหนักรักพังทลาย เผย ยังทำใจไม่ได้ อาวรณ์รัก "ซาร่า" ซ้ำไปซ้ำมาราวฝนตกตลอดเวลา ...




ตกเป็นข่าวร้อนออนไลน์กินพื้นที่สื่อทุกสำนักไปก่อนหน้านี้ จนกลายเป็นประเด็นที่หลายๆ คนจับตาในช่วงวาเลนไทน์ที่ผ่านมา สำหรับกรณีคู่รักดารา "เต้ย ธโนทัย เอื้ออมรรัตน์" และ "ซาร่า นลิน โฮเลอร์" ที่จู่ๆ ก็มาเลิกร้างห่างไกลกันเสียดื้อๆ ทั้งๆ ที่ ประคบประหงมบ่มเพาะรักมานานถึง 14 ปีด้วยกัน ซึ่งภายหลัง ฝ่ายชายก็ได้ออกมากล่าวถึงสาเหตุที่เลิกกันเป็นความผิดเจ้าตัว แต่ไม่สามารถพูดอธิบายออกมาได้ทั้งหมด พร้อมยืนยันไม่มีมือที่สามอย่างแน่นอน 





หลังจากนั้นชาวเน็ตก็พากันงงเป็นไก่ตาแตกกันอีกรอบ เพราะ "ดีเจบุ๊กโกะ" ได้ออกมาเปิดเผยว่า "แพท ณปภา" ได้ถามไถ่ "ซาร่า" ถึงข่าวเลิกรากับ "เต้ย" ซึ่งได้รับการยืนยันว่าทั้งคู่คืนดีกันแล้ว ส่วนเรื่องที่มีข่าวเลิกรากันเป็นความเข้าใจผิด ทำเอาหลายคนสงสัย และสับสนเป็นอย่างมาก





กระทั่ง ซาร่า ได้เปิดใจกับวันบันเทิงยืนยันความสัมพันธ์ยังไม่รีเทิร์นรัก เต้ย ธโนทัย พร้อมย้ำสถานะตอนนี้คือขอถอยกลับมาเป็นเพื่อนกัน แต่ยังไม่อยากใช้คำว่าเลิก เพราะเจ็บปวดเกินไป



ล่าสุดวันที่ 22 ก.พ.64 ที่ MCC HALL ชั้น 4 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน "เต้ย ธโนทัย" ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนถึงสภาพจิตใจหลังเลิกรากับ "ซาร่า" มาได้เกือบ 2 อาทิตย์ ในงานแถลงข่าวการประกวด TO BE NUMBER ONE IDOL หรือ "เยาวชนต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE" รุ่นที่ 11 ประจำปี 2564



สภาพจิตใจตอนนี้ดีขึ้นหรือยัง ?
“นี่เรากดดันมากเลยนะ (ยิ้ม) มันก็คงโหวงๆ อ่ะครับ ทุกคนถ้าใครมีแฟนมานานๆ เป็นสิบปี พอเราไม่ได้อยู่ด้วยกันมันก็ต้องเป็นธรรมดาที่ต้องมีรู้สึกใจหายบ้าง ผมว่าหลายคนต้องเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว”

อันนี้ถือเป็นครั้งแรกเลยไหมที่ได้พูดต่อหน้าหลายๆ คน ?
“ก่อนอื่นเลยผมต้องขออภัยพี่ๆ สื่อทุกคนก่อนหน้านี้ หลายคนโทรมาหาผมเยอะมากๆ ผมไม่รู้จะขอโทษรายบุคคลยังไงจริงๆ เพราะตอนนั้นผมอยู่ในสภาพจิตใจที่ผมไม่พร้อมเลย ไม่รู้ว่าสำหรับบางคนเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ แต่สำหรับผมนี่คือเรื่องระดับชาติเลยครับ แล้วตอนนั้นก็ขออนุญาตหายตัวไปเลย



จนเมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมเห็นน้องเขาได้ออกมาพูดแล้ว พอดีว่าผมเองเคยทำงานให้กับทางอมรินทร์มาก่อนก็เลยให้สัมภาษณ์ไป เลยคิดว่ามันน่าจะจบไปแล้วตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว แต่วันนี้พอดีมาให้กำลังใจน้องๆ แล้วบังเอิญมาเจอทุกคนที่อยู่ตรงนี้กัน ถือว่าเราก็ได้มาคุยกันเลยก็ได้”



สัปดาห์ที่ผ่านมาได้คุยกับซาร่าบ้างไหม ?
“ไม่ได้คุยครับ เป็นส่งแมสเสจมากกว่า จะคอยเช็กเขาว่าอย่าลืมปิดร้าน อย่าลืมอย่างโน้นอย่างนี้นะ รถพังอย่าลืมเอาไปซ่อมนะ จะยืมรถใช้ก่อนมั้ย แต่ว่าเป็นส่งแมสเสจ เพราะตอนนี้จะให้สนทนาพูดคุยกันผมก็ไม่พร้อมจริงๆ”

ทางซาร่ามีตอบกลับมาบ้างไหม ?


“จริงๆ คือตัวซาร่าตอนนี้เขาไม่ค่อยได้คุยอะไร ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผมที่ส่งแมสเสจไปทิ้งไว้มากกว่า แต่มันก็ขึ้นว่ามีคนกดอ่านอยู่”

แสดงว่าตัวเรายังเป็นห่วงทุกอย่างในตัวซาร่าอยู่ ?
“ทุกอย่างที่มันเป็นเรื่องของน้องเขา ผมคิดว่าถ้ามันเป็นเรื่องดีต่อตัวเขาและเป็นเรื่องที่เขามีความสุข ผมก็พร้อมจะส่งเสริมให้มันเป็นเรื่องแบบนั้นไป”

เรียกว่ายังเดินหน้าง้ออยู่ไหม ?
“ถ้าเรื่องง้อผมว่าเป็นเรื่องของอนาคต แต่ว่าตอนนี้ก็ขอทำในสิ่งที่อยากทำก่อนจริงๆ แล้วกันครับ เพราะว่ามันมีทั้งงานโรงงาน งานส่วนตัว เอาจริงๆ เราก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ เราก็ขอแค่แบบทำทุกอย่างให้มันดีที่สุดไปก่อน”



กลัวไหมว่าถ้าทิ้งเวลายืดยาวไปกว่านี้มันจะยิ่งสานต่อได้ยาก ?
“ผมว่าเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของอนาคต ถ้ามันต่อไม่ติดมันก็ต่อไม่ติด แต่ถ้าเกิดเรามันเป็นคู่ที่ใช่กัน เราก็คงโคจรกลับมาเจอกัน”

เริ่มทำใจได้แล้วใช่ไหม ?
“จริงๆ มันเหมือนมีสายฝนตกลงมาอยู่ได้เรื่อยๆ ทุกครั้งที่เวลามาเจอตรงนี้หรือเวลาเจอทีมงาน คือทุกคนดีกับผมมากเลย ทุกคนให้กำลังใจ แต่ว่าข้างในใจเราตอนนี้คือมันไม่มีใครรู้จริงๆ แล้วผมจะเดินด้วยความรู้สึกบึ้งตึงก็ไม่ได้ ตอนนี้มันเลยเหมือนไบโพลาร์ คือยิ้มสู้ไว้ก่อน แต่ถ้าเศร้าผมขอไปเศร้าข้างนอกแล้วกัน”

มีวี่แววที่ทางฝ่ายซาร่าจะใจอ่อนบ้างไหม ?
“เอาจริงๆ ปกติก็ไม่ค่อยได้คุยอยู่แล้ว เพราะว่าซาร่ามีงานเยอะมาก แล้วด้วยจังหวะเวลาของเขา และเวลาของผมอาจจะไม่ค่อยได้โคจรมาเจอกัน เวลาเจอก็อยู่กับเพื่อนบ้าง หรือว่าเวลาเขามาหาผมก็ต้องทำงานที่โรงงานบ้าง เลยอาจจะไม่ค่อยได้คุยกันไม่ค่อยได้ปรึกษากันเท่าไหร่”

ถามถึงคำสัมภาษณ์ที่เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าตัวเองเป็นคนที่อาจจะไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ อาจจะดูแลซาร่าไม่ค่อยดี ตรงนี้มีความคิดที่อยากจะปรับปรุงตัวให้เป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนไหม?
“ผมคิดว่ามันเป็นพอยท์ปลายทางของทุกคนที่ว่าพวกเราไม่มีใครเพอร์เฟกต์ ไม่มีใครดีที่สุด แต่ว่าพวกเราสามารถเป็นคนที่ดีกว่าวันนี้ได้ ถ้าอะไรที่มันทำให้ตัวเราดีขึ้นเราก็พร้อมทำอยู่แล้ว”



สาเหตุการยุติความสัมพันธ์จริงๆ แล้วมันเกิดจากตัวเราเองจริงใช่ไหม ?
“พวกเราได้ตกลงและคุยกันแล้วครับ ว่าพวกเราขอหยุดความสัมพันธ์ไว้ก่อน ตอนนี้เราเป็นเพื่อนกันก่อนก็ได้นะ อย่างน้อยมันก็ไม่ได้ดีแค่ตัวเขา มันก็ดีทั้งตัวเราด้วย ดีทั้งต่อคนรอบข้างทุกคนที่อยู่รอบตัวพวกเรา”

คุยเรื่องนี้กันมานานแค่ไหนแล้ว ?
“เมื่ออาทิตย์ที่แล้วได้จับเข่าคุยกับเขา คือได้คุยเรื่องนี้แหละครับ ผมมันเด็กด้วยแหละตอนนั้น ตอนนี้ก็ยังเด็กอยู่(หัวเราะ) ที่จริงตอนนั้นมันเรื่องส่วนตัวก็ไม่ควรโพสต์อะไรลงไป แต่ตอนนั้นมันทำใจไม่ได้มันเลยมีแลบออกไปบ้างครับ”

หลังจากที่โพสต์ไปเพิ่งมีโอกาสได้คุยกัน ?
“ใช่ ก็เลยมีโอกาสได้คุยกัน แต่อันนี้มานั่งจับเข่าคุยกัน เรื่องความสัมพันธ์อย่าคุยกันผ่านแมสเสจนะครับ ทะเลาะกันทุกคนนะครับ(หัวเราะ) เรื่องแบบนี้ผมขออนุญาตคุยต่อหน้าเลยดีกว่า และลากยาวมาจนถึงอาทิตย์นี้แหละครับ ผมไม่แน่ใจว่าทางซาร่าเขาน่าจะมีสัมภาษณ์ใหญ่ไปแล้ว ผมกับเขาก็ได้คุยกันแล้วว่าเอาจริงๆ มันก็คงต้องจบแล้ว”

ณ วันนี้เลิกกันหรือแค่ถอยคนละก้าว เพราะตอนนั้นเราบอกแค่ลด แต่ซาร่าขอแค่เป็นเพื่อน ?
“เอาตามที่เขาว่าแล้วกัน ผมว่านะ ตอนนี้ผมก็รู้สึกว่าผมเป็นเพื่อนเขาแล้วเหมือนกันครับ เอาจริงๆ มันก็ลดความสัมพันธ์ลงมาครับ”



14 ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง ?
“มันก็สวยงามครับ ความรักสวยงามมากเลย ต่างคนต่างดูแลกันดีครับ และมันก็มีอะไรหลายอย่างเกิดขึ้นเยอะแยะมากมายเลย ของขวัญแฮนด์เมดที่ทำด้วยมือ ข้อความแมสเสจที่จดไว้มันเยอะมากเลยครับ แต่แค่แบบอาจจะต้องปิดหนังสือเล่มนี้ เพื่อเขียนหนังสือเล่มอื่นต่อหรือเปล่า”

ปิดเลยเหรอ ?
“มันก็ไม่ใช่ถึงขั้นจะเขียนต่อ ผมเชื่อว่ามันก็น่าจะดีกว่ากับพวกเราทั้งสองฝ่ายครับ เขาก็ได้มีเวลาเยอะขึ้นด้วย จะได้ไม่ต้องมานั่งจ้ำจี้จ้ำไชอะไรครับ”

แต่อีกนิดเดียวก็จะไปถึงตอนจบแล้วนะ?
“ใช่มั้ย เนาะ ผมรู้สึกเหมือนคุณเลย”

ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมันมีสัณญาณเตือนบอกอะไรก่อนไหม ?
“ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก แล้วมีหลายรายละเอียดอันนี้ผมขออนุญาตแล้วกันนะครับที่มันเป็นเรื่องส่วนตัวที่ผมขออนุญาตไม่พูดถึงจริงๆ ละกัน แต่ว่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเรามันก็มีช่วงปีสองปีหลังเนี่ยแหละครับ ที่มันอาจจะเป็นที่ตัวผมด้วยแหละ เติมความหวานน้อยเกินไป อาจจะรดน้ำต้นไม้ได้ไม่ดี มันก็ต้องเป็นที่ตัวเราแล้วแหละ”



เรายอมรับผิด ?
“ก็ให้เป็นตัวเราดีกว่าครับ”

ตอนนี้หวังอยากจะกลับไปเป็นสถานะแฟนเหมือนเดิมไหม ?
“ถ้าเอาตอนนี้ จริงๆ นะ ผมรู้สึกว่าตอนนี้ดีกับทั้งสองฝ่ายมาก ถ้าเกิดอนาคตผมคือของเขา และเขาคือของผมจริงๆ ผมก็พร้อมที่จะทุ่มทุกอย่างเพื่อไปหาเขา ถ้าพวกเรามันคลิกกันจริงๆนะครับ แต่ ณ ตอนนี้อย่างที่บอก วินาทีนี้ ถ้าตัวผมวิ่งเข้าหาเขา มันจะไม่มีอะไรดีขึ้นเลยครับ เขาก็ยังทำใจไม่ได้ มันก็เหมือนยิ่งเร่งยิ่งรัดครับ เพราะฉะนั้นตอนนี้เวลามันน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดของเรา”

ถ้าเขาให้โอกาสเราก็พร้อมจะเปลี่ยนตัวเอง ?
“ถ้าเขาให้โอกาส (หัวเราะ)”

ตอนนี้รอเขาให้โอกาสอยู่ ?
“ผมว่าตอนนี้เอาเป็นว่าก็คงรอให้เขาทำงานไปก่อน เรื่องโอกาสมันเป็นเรื่องของอนาคตอยู่แล้วครับ เขาต้องรับผิดชอบเยอะครับ เขาเป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นลูกสาวคนเดียวในบ้าน เพราะฉะนั้นเขายังมีอะไรที่เขายังต้องทุ่มเทให้อีกเยอะมาก ถ้ามีตัวเราเข้าไปทำให้เขาเสียจิตเสียใจมันก็คงไม่ดีครับ”



มีหลายอย่างไหมที่เราไม่มีโอกาสที่จะได้ทำก่อนที่จะเกิดขึ้น ?
“เอาจริงๆ ผมไม่เสียดายนะ ถ้าถามมาแบบนี้ หมายความว่า ไม่เสียดายที่ไม่ได้ทำอะไรไป เพราะผมเชื่อว่าเราทำครบทุกอย่างแล้ว หลายๆ อย่างเอาจริงๆ ผมก็มายืนจุดนี้ไม่ได้เหมือนกัน ถ้าผมไม่มีเขานะ มันมีคำแนะนำหลายอย่างที่มาจนถึงทุกวันนี้ได้ เขาสอนเรามาเยอะมาก มันก็เหมือนแลกเปลี่ยนกัน”

วันนี้มีอะไรอยากจะบอกเขาไหมกับสิ่งที่เรายังไม่ได้บอกเลย หรือความเป็นห่วงเป็นใย ?
“ตอนนี้ยังอาบน้ำให้แมวอยู่นะ (หัวเราะ) ยังดูแลแมวของเธออย่างดี แล้วก็ดูแลสุขภาพด้วยแล้วกัน ทำงานหนัก เป็นห่วง สนุกกับเพื่อนได้เต็มที่ และหาความสุขให้ตัวเองเยอะๆ แล้วกัน”

ยังคิดถึงซาร่าไหม ?
“ทำใจไม่ได้จริงๆ มีหลายคนบอกว่าไม่ต้องคิดมาก เพื่อนผู้ชายหลายคนทักมาเยอะมากเลย แต่ผมไม่ใช่สายนั้นจริงๆ เราเคลียร์งานเสร็จก็ไปหากิจกรรมอะไรก็ว่าไป เต้นออกกำลังกาย เล่นกีฬา มันเลยต้องหาอะไรพวกนี้ทำทดแทนมากกว่า ตอนนี้ถ้าให้ผมอยู่เฉยๆ ผมกลายเป็นคนแบบ...มันเคว้ง มันซ้าย ขวา จริงๆ แค่ทำงานแล้วไปออกกำลังกายเลยดีกว่า”



ด้วยความที่มีแพลนงานแต่งด้วย ที่บ้านเราว่ายังไง ?
“เรื่องนี้ น่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวของบ้านเขา ส่วนบ้านผมก็ถามมาเยอะมาก ผมทะเลาะกับพี่สาว กลายเป็นเรื่องใหญ่มาก แต่เขาก็ให้เกียรติพื้นที่เรา”

เรือนหอที่สร้างไว้ล่ะ ?
“คงดำเนินต่อไป เพราะยังไงอนาคตทุกคนก็ต้องมีบ้านเป็นของตัวเอง ทุกวันนี้เราอยู่คอนโดฯ ทุกคนโตไปต้องมีครอบครัว จะมีคู่หรือไม่มีคู่ ผมว่าการโตไปภายในบ้าน สภาพแวดล้อมที่ดี ผมว่าเป็นเรื่องที่ดี”

มุมมองความรักเปลี่ยนไปไหม ?
“ผมยังศรัทธานะ แต่ตอนนี้ต้องกลับมารักตัวเองก่อน เรารู้อยู่แล้วว่า เราเคยดูคนสักคนนึง เราเคยอยู่ด้วยกันกับคนๆ หนึ่งมานาน แต่พอระดับความสัมพันธ์มันลดลงไป เอาจริงๆ ผมก็ทำตัวไม่ถูก เป็นผู้ชายก็ต้องง้อเนอะ แต่ตอนนี้มันมีหลายเรื่อง ผมเลยยังไม่พร้อมมากๆ เลยที่ต้องเริ่มต้นความรักครั้งใหม่ ไม่พร้อมเริ่มต้นกับใคร”

เราก็เฮิร์ตหนัก ?
“ความถี่ 9 ริกเตอร์ ตอนนี้มูฟออนไม่ได้ ขอมูฟเป็นเต้นไปก่อนแล้วกัน”



จากที่มีคนขุดคลิปในรายการเก่าๆ ออกมา เรารู้สึกยังไง ?
“มันเป็นเรื่องปกติ ถ้าเรื่องไหนไปสะดุดตาเขา มันสามารถไปถูกใจใครได้ทุกคน ที่นี้ถ้าให้พูดย้อนกลับไป ถ้าจะให้นั่งเถียงในรายการก็คงเป็นไปไม่ได้ เราเป็นผู้ชาย เราเป็นช้างเท้าหน้า ใครว่ามา เรายอมรับทุกอย่าง แต่อย่าไปว่าเขาเลย ผมเชื่อว่าคนรักน้องเขาก็เยอะ แต่ในรายการอาจจะมีอะไรที่วางไว้และเปลี่ยนชีวิตตัวเองมาก ทุกวันนี้ก็สตรองสู้ไป แต่เห็นแล้วล่ะ น่ากลัวดี ขอบคุณทุกคำติชม ผมจะเอาไปพัฒนาครับ”

หลายคนบอกที่เลิกกัน เพราะไม่ยอมเปลี่ยนศาสนา ?
“เรื่องของคู่ผมไม่ได้มีมือที่สาม ไม่ได้มีศาสนา ไม่ได้มีเรื่องของพ่อแม่ ไม่ได้มีเรื่องอะไรเลยที่เข้ามาปะปนให้เรารู้สึกแย่ แต่ว่าผมเคารพการตัดสินใจของทั้งสองฝ่าย ถ้าตอนนี้เราอาจจะเป็นผู้ชายที่ยังเรียกว่าต้องพัฒนาตัวเองมากขึ้นกว่านี้ ผู้หญิงทุกคนมีคุณค่าครับ แล้วผมเชื่อว่าผู้ชายทุกคนควรจะต้องทำให้ตัวเองมีคุณค่าเพื่อที่จะได้ดูแลเขา ตอนนี้ผมอาจจะคุณค่ายังไม่พอ”

แสดงว่าเรื่องศาสนาไม่มีผลต่อความสัมพันธ์เลย?
“ไม่มีๆ ไม่มีเลย สิ่งที่สวยงามที่สุดในกลุ่มพวกเรา คือผมกับซาร่าเคยเดินทางด้วยกันจนพวกเราเคยได้ไปทำงานก๊วนๆ กับกลุ่มมุสลิม กลุ่มศาสนาของทางญี่ปุ่น แต่ความสวยงามของพวกเราคือเราเป็นเอเชี่ยน เป็นอีสเทิร์น เวสเทิร์น รวมกัน 30-40 คน มันไม่มีทางเลยครับที่เรื่องศาสนาจะมาทำให้ความสัมพันธ์เรามีปัญหา”

มีข่าวออกมาด้วยว่าทางครอบครัวของซาร่าอยากให้เราเปลี่ยนศาสนา ?
“(ยิ้ม) ไม่มีครับ แต่ถ้าเขาอยากให้ผมทำอะไรก็บอกได้แล้วกัน ถ้าตอนนั้นเรากลับมาคบกันนะ”



ขอย้อนถามกลับไปตอนที่ตกลงจะแต่งงานกัน ได้คุยกันเรื่องเปลี่ยนศาสนาบ้างไหม ?
“ยังไม่มีครับ ไม่ใช่ประเด็นหลักเลยครับ ผมคิดว่าตอนนั้นประเด็นใหญ่ที่สำคัญสำหรับผมนะก็คืออนาคตของคู่เรา แต่สำหรับผู้หญิงคือความสัมพันธ์ปัจจุบัน ตอนนี้มันเหมือนเราโฟกัสกันคนละแบบ ผมอาจจะทำให้เขารู้สึกไม่ดีด้วยแหละ”

คนมองว่าตอนนี้เขาดังกว่า เลยทิ้งเรา ?
“ไม่เลยครับ อย่ามองแบบนั้นเลย ซาร่าเขาเป็นคนดีมากเลยนะ กว่าเขาจะดูแลครอบครัวเขาได้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ อย่าไปมองเขาแบบนั้นเลย”

หน้าเราดูตอบลง ?
“ไม่ถึงขั้นตรอมใจหรอก แต่ทุกวันนี้ตารางชีวิตเพี้ยนไปหมด และนอนได้ 3 ชม.ก็ตื่นแล้ว วันที่โพสต์ออกไปรู้สึกแย่มากกว่าจะได้นอนก็ 6 โมงเช้า วันถัดมาทำงานเสร็จง่วงนอนเที่ยงคืนหลับตาก็นอนไม่หลับ กว่าจะได้นอนก็ตีห้า มันเป็นอย่างนี้จริงๆ ครับ”