ผู้มีสิทธิโครงการเราชนะ ที่ จ.พิษณุโลก พากันออกมาประเดิมวงเงิน 2,000 บาท ด้วยการปาร์ตี้หมูกระทะกันอย่างคึกคัก โดยไม่ได้นัดหมาย ส่งผลทำให้บรรยากาศการจับจ่ายคึกคักเป็นอย่างมาก
วันที่ 19 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา ผู้มีสิทธิได้รับวงเงินจากโครงการเราชนะ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ระลอก 2 ที่ จ.พิษณุโลก ได้ทยอยกันออกมาจับจ่ายซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคกันอย่างต่อเนื่อง ขณะที่บางส่วน ได้เลือกที่จะประเดิมการใช้วงเงิน โดยการนัดหมายเพื่อนๆ ญาติพี่น้อง ออกมาสังสรรค์กันด้วยการรับประทานหมูกระทะบุฟเฟ่ต์ร่วมกัน ทำให้ร้านหมูกระทะและร้านอาหารประเภทบุฟเฟ่ต์หลายร้านบรรยากาศคึกคักตั้งแต่เปิดร้านในช่วงเย็น
ขณะเดียวกันผู้มีสิทธิจากโครงการเราชนะบางส่วน ก่อนที่เข้าใช้บริการจะสอบถามทางร้านก่อนว่า ร้านที่มีป้ายบอกว่าเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งได้เข้าร่วมโครงการเราชนะหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด ในช่วงขั้นตอนการชำระค่าบริการ และบางคน ยังเลือกที่จะขอจ่ายค่าบริการก่อนใช้บริการ หรือชำระก่อนที่จะรับประทานอาหารเสร็จ เพื่อความแน่นอนว่าจะไม่เกิดปัญหาผิดพลาด สามารถจ่ายค่าบริการได้ โดยไม่ต้องเจอกับปัญหาระบบล่ม หลังรับประทานอาหารเสร็จ เหมือนที่มีข่าวในสื่อสังคมออน์ไลน์ ว่าบางคนพบปัญหาเลือกซื้อสินค้าและใช้บริการแล้ว แต่ปรากฏว่าไม่สามารถใช้ วงเงินจากโครงการเราชนะ ชำระค่าสินค้าและบริการได้

ด้าน นักศึกษา ซึ่งเป็นลูกค้าที่มาใช้บริการร้านหมูกระทะ บริเวณเส้นทางเข้ามหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม อ.เมือง จ.พิษณุโลก เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า โครงการเราชนะ ที่ตนเองได้รับวงเงินจำนวน 7,000 บาท นี้ สามารถช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับพ่อแม่และผู้ปกครองได้เป็นอย่างดี ส่วนการรับประทานหมูกระทะในครั้งนี้ เป็นโอกาสพิเศษ ที่จะได้รับประทานหมูกระทะ โดยไม่ต้องจ่ายเงิน เพราะช่วงที่ผ่านมา ต้องกินต้องใช้อย่างประหยัด แต่เมื่อมีโอกาส ก็ชักชวนเพื่อนมารับประทานอาหารร่วมกัน เพื่อช่วยพ่อค้าแม่ค้าได้มีรายได้ตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาล ที่ต้องกระตุ้นการจับจ่าย ลดผลกระทบจากวิกฤตโควิด19

ด้าน น.ส.กันต์สินี เนื่องจำนง อายุ 34 ปี เจ้าของร้านหมูกระทะ เปิดเผยว่า โครงการเราชนะ รวมถึงหลายโครงการที่ผ่านมา ในช่วงวิกฤตโควิด19 สามารถช่วยร้านค้า พ่อค้าแม่ค้าได้อย่างตรงจุด ผู้มีสิทธิจะออกมาจับจ่ายกับร้านค้าเล็กๆ ทำให้หลายร้านอยู่รอดมาได้ เพราะไม่การใช้สิทธิจำกัดสิทธิไม่ให้ นำไปใช้กับห้างร้านขนาดใหญ่ จึงอยากให้รัฐบาลออกนโยบาย ลักษณะนี้ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้จะคลี่คลาย