"พิชัย" แนะ เร่งเลือกตั้งโดยเร็วหลัง รธน. ประกาศใช้ เพื่อเจรจาการค้าและแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ยิ่งลากยาวพรรคเพื่อไทยจะยิ่งชนะการเลือกตั้ง
โดยที่ ดร. บวรศักดิ์ได้ให้เหตุผลว่าเพราะเขาอยากอยู่ยาว และรัฐบาลบอกว่าต้องใช้เวลา 18 เดือนในการร่าง รธน. เพื่อเลือกตั้งใหม่ ซึ่งตนได้ออกมาเตือนว่าจะทำให้เศรษฐกิจแย่ แล้วตนก็โดนเรียกปรับทัศนคติ แต่ต่อมาก็พิสูจน์แล้วว่าเศรษฐกิจได้ย่ำแย่อย่างที่ตนได้เตือนไว้จริง และคราวนี้ก็จะพยายามยื้อเวลากันอีกหลังจากที่เลื่อนกันมาตลอด ซึ่งหากจะลากการเลือกตั้งออกไปอีก 16 เดือนตามที่นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานร่าง รธน. บอก ก็จะยิ่งทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่ลงไปอีก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่สหรัฐจัดให้ไทยอยู่ใน 1 ใน 16 ประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐและจะมีมาตรการกีดกันการค้าออกมา ซึ่งหากไทยยังมีการปกครองแบบนี้ การเจรจาต่อรองคงจะทำได้ยาก และจะยิ่งซ้ำเติมจากการที่อียูไม่ยอมเจรจาการค้ากับไทยด้วยเหตุผลเดียวกันนี้ ซึ่งจะทำให้การส่งออกที่มีแนวโน้มว่ากำลังจะฟื้นตัวกลับจะยิ่งทรุดลง และจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนให้ยิ่งแย่ลง ความหวังของรัฐบาลที่อยากให้มีการลงทุนมากๆในเขตเศรษฐกิจพิเศษตะวันออกก็อาจจะผิดหวังได้ เพราะคงไม่มีนักลงทุนอยากลงทุนหากต้องเจอกับการกีดกันทางการค้าและการที่ไม่สามารถเจรจาการค้าได้ และจะส่งผลกระทบต่อความสามารถแข่งขันของประเทศไปอีกนาน
ดังนั้นรัฐบาล สนช. กรธ. จึงควรจะเร่งให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว เพื่อเร่งแก้ปัญหาดังกล่าว เศรษฐกิจจะได้ฟื้นตัวได้ ประชาชนจะได้ไม่ลำบาก ซึ่งหากรัฐบาลจะกลัวว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งตามกระแสข่าวเรื่องผลโพลภายในที่ทำกันไว้ การลากการเลือกตั้งจะทำให้เศรษฐกิจยิ่งแย่ และจะยิ่งทำให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งมากขึ้น แต่ผลเสียคือยิ่งลากยาวจะยิ่งทำให้ประเทศเสียหายมากยิ่งขึ้นด้วย