เมียนมาไล่เผด็จการต่อ กองทัพอ้างหน้าตาเฉย มีปชช.กว่า 40 ล้าน หนุนยึดอำนาจ

2021-02-18 07:40:49

เมียนมาไล่เผด็จการต่อ กองทัพอ้างหน้าตาเฉย มีปชช.กว่า 40 ล้าน หนุนยึดอำนาจ

Advertisement


ชาวเมียนมาหลายพันคนยังคงประท้วงทั่วประเทศในวันพุธ ซึ่งการจัดการชุมนุมต่อต้านเผด็จการทหารในบางพื้นที่ ถือว่าใหญ่ที่สุดตั้งแต่กองทัพยึดอำนาจในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ผู้ขับขี่รถยนต์นำรถไปปิดถนนสายสำคัญ ขณะที่การประท้วงแบบอารยะขัดขืน ซึ่งจัดขึ้นแบบหลวม ก็เพิ่มมากขึ้น โดยไม่สนใจคำยืนยันของกองทัพที่บอกว่า มีประชาชนจำนวนมากสนับสนุนในการยึดอำนาจของนางออง ซาน ซู จี ผู้นำที่มาจากการเลือกตั้ง ผู้ประท้วงบอกว่า พวกเขาจะไม่หวาดหวั่นในการเดินหน้าขับไล่เผด็จการ ยุติการปกครองของกองทัพ โดยการประท้วงในวันพุธ ส่วนใหญ่ก็เป็นไปอย่างสงบ แต่กองกำลังรักษาความมั่นคงก็ยิงปืนขู่ใกล้สถานีรถไฟในเมืองมัณฑะเลย์ หลังตกค่ำในการเผชิญหน้ากับพนักงานการรถไฟที่พากันผละงานประท้วง มีรายงานว่า มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 1 คน

กลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางออง ซาน ซู จี และบรรดาผู้นำพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งคนอื่น ๆ หลังการยึดอำนาจ ส่วนนางซูจีถูกควบคุมตัวในบ้านพักที่กรุงเนปิดอว์นับตั้งแต่มีการรัฐประหาร เมื่อวันอังคาร เธอถูกตั้งข้อกล่าวหาที่สองที่อาจทำให้เธอถูกควบคุมตัวอย่างไม่มีกำหนด ทนายของนางซูจี ซึ่งไม่ได้ติดต่อกับเธอโดยตรง ระบุหลังเข้าพบผู้พิพากษาว่า เธอถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าละเมิดกฎการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยก่อนหน้านี้ เธอถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าครอบครองเครื่องรับส่งวิทยุมือถือนำเข้าโดยไม่มีใบอนุญาต ซึ่งอาจได้รับโทษจำคุกสูงสุดสามปี



นอกจากนี้ กองทัพยังย้ำคำมั่นสัญญาว่าจะจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ และสละอำนาจ แม้ว่ากลุ่มผู้ประท้วงจำนวนมากยังคงเคลือบแคลงสงสัยกับคำมั่นสัญญาดังกล่าว

พัฒนาการดังกล่าว มีขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ทูตพิเศษของสหประชาชาติ ฝ่ายกิจการเมียนมา เตือนมีแนวโน้มที่กองทัพอาจใช้ความรุนแรงต่อผู้ประท้วง



สิธู หม่อง สมาชิกที่ได้รับเลือกตั้งของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี ของนางซู จี กล่าวต่อ ประชาชนหลายหมื่นคนที่เจดีย์สุเล ศูนย์กลางของการประท้วงในกรุงย่างกุ้ง เมืองใหญ่สุดของเมียนมาว่า พวกเรารักประชาธิปไตยและเกลียดเผด็จการ เราต้องเป็นคนรุ่นสุดท้ายในการพบเจอกับการยึดอำนาจ

การประท้วงในหลายเมืองทั่วเมียนมา บางเมืองถือว่าเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่เริ่มมีการประท้วงรายวันในวันที่ 6 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา เพื่อต่อต้านการยึดอำนาจ ซึ่งทำให้ถ่ายโอนประชาธิปไตยที่ไม่มั่นคงจากการปกครองของกองทัพมากกว่าครึ่งศตวรรษ ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง

ขณะเดียวกัน พลจัตวา ซอว์ มิน ตุน โฆษกของรัฐบาลเผด็จการ แถลงข่าวในวันอังคารว่า กองทัพจะไม่อยู่ในอำนาจนาน และอ้างอีกว่า มีประชาชน 40 ล้านคนในจำนวน 53 ล้านคนของเมียนมา สนับสนุนการยึดอำนาจครั้งนี้

นางซู จี วัย 75 ปี เคยถูกรัฐบาลเผด็จการทหาร กักบริเวณอยู่ในบ้านพักในกรุงย่างกุ้งนานเกือบ 15 ปี ฐานที่เธอพยายามเรียกร้องประชาธิปไตย การยึดอำนาจและการจับกุมตัวนางซู จี และอีกหลายร้อยคน ยังเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากชาติตะวันตก และกองทัพยิ่งเพิ่มความไม่พอใจครั้งใหม่ให้สหรัฐและอังกฤษ กรณีตั้งข้อหานางซู จี เพิ่มอีก และแม้แต่จีนเองก็เริ่มแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ในเมียนมาเช่นกัน โดยเฉิน ไห่ ทูตจีนประจำเมียนมา ระบุเมื่อวันอังคารว่า สถานการณ์ในปัจจุบันเป็นสิ่งที่ “จีนไม่ต้องการเห็นอย่างแน่นอน” แม้ว่าจีนไม่ได้แสดงท่าทีแข็งกร้าว เอกอัครราชทูตของจีนในเมียนมา ก็ปฏิเสธข้อกล่าวหาในวันอังคารว่า จีนสนบสนุนการยึดอำนาจ