ผู้แทนพิเศษขององค์การสหประชาชาติ เตือนจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด หากกองทัพเมียนมาใช้ความรุนแรงกับประชาชน ที่ประท้วงต่อต้านการรัฐประหาร ขณะที่ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมายืนยันว่า เจ้าหน้าที่ได้ใช้ความอดกลั้นที่สุดแล้ว แต่พร้อมใช้ความเด็ดขาดถ้าจำเป็น
กลุ่มสังเกตการณ์อิสระ"เน็ตบล็อกส์" รายงานว่า ความเร็วอินเทอร์เน็ตของเมียนมา ลดลงเหลือเพียง 15 เปอร์เซ็นต์ จากระดับปกติ เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันอังคาร นับเป็นคืนที่ 2 ติดต่อกัน และเป็นครั้งที่ 4 ตั้งแต่กองทัพก่อรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน นำโดยนางออง ซาน ซูจี เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลทหารใช้วิธีตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์เป็นระยะ ครั้งละหลายชั่วโมง
น.ส.คริสติน ชราเนอร์ เบอร์เกนเนอร์ ทูตพิเศษด้านกิจการเมียนมาขององค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น โทรศัพท์ทางไกลหารือกับพล.อ.โซ วิน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และรองประธานคณะมนตรีการปกครองแห่งรัฐ หรือคณะรัฐประหารเมียนมา เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดย น.ส.ชราเนอร์ เบอร์เกนเนอร์ ได้เรียกร้องให้รัฐบาลทหารเมียนมา เคารพสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน ในการชุมนุมประท้วงอย่างสันติ โดยย้ำว่าทั่วโลกกำลังจับตามอง สถานการณ์ในเมียนมาอย่างใกล้ชิด และยูเอ็นจะมีมาตรการขั้นเด็ดขาด หากฝ่ายความมั่นคงของเมียนมายังคงใช้ความรุนแรงกับผู้ประท้วง
การติดต่อสื่อสารดังกล่าว ถือเป็นการติดต่ออย่างเป็นทางการกับโลกภายนอก ที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นของกองทัพเมียนมานับตั้งแต่เกิดการยึดอำนาจ
น.ส.ชราเนอร์เบอร์เกนเนอร์ ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าเมียนมา นับตั้งแต่เกิดการยึดอำนาจ ซึ่งนายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการยูเอ็น ยืนยันจะเดินหน้าเรียกร้อง จนกว่ารัฐบาลทหารเมียนมาจะอนุญาต
ทางด้าน พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และประธานคณะมนตรีการปกครองแห่งรัฐ กล่าวในเวลาต่อมาว่า ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงของเมียนมา พยายามใช้ความละมุนละม่อม ในการควบคุมสถานการณ์ แต่จะไม่ลังเลที่จะใช้ความเด็ดขาด กับผู้ที่ปลุกระดมให้ใช้ความรุนแรง
เจ้าหน้าที่เมียนมาเผยว่า ตำรวจอย่างน้อย 4 คนได้รับบาดเจ็บ ระหว่างควบคุมการประท้วง ที่เมืองมิตจีนา ในรัฐกะฉิ่น ทางภาคเหนือ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา.