ภายหลัง "โจ บอยสเก๊าท์" อดีตนักร้องบอยแบนด์ชื่อดังเสียชีวิต ลูกชายคนเดียวของเขา คือ "ไอซ์"โชคชัย อุชชิน ซึ่งเกิดกับอดีตภรรยาสมัยยังวัยรุ่น "น้ำ"นันทิยา อุชชิน ได้มาร่วมงานศพและให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนไปเมื่อวันที่ 11 พ.ย. ขณะที่คุณพ่อของโจ คือ คุณพ่อสัมฤทธิ์ ฉิมท้วม หรือ คุณปู่สัมฤทธิ์ งงที่มีหลานโผล่มางานศพเพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าโจมีลูกและไม่เคยมาเล่าอะไรให้ฟัง กลัวว่าจะเป็นการแอบอ้าง แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 พ.ย.ทั้ง 3 คนได้ปรับความเข้าใจกันแล้ว
ไอซ์ : ดีใจที่ได้มาเจอปู่ และได้มาเจอญาติฝ่ายพ่อ เมื่อกี้ได้มีโอกาสได้คุยกับทางคุณปู่แล้ว เป็นการคุยเรื่องทั่วไป ถามสารทุกข์สุขดิบ
คุณปู่สัมฤทธิ์ : วันนี้ได้เจอ ได้คุยกันก็ดีใจมาก ดีใจภูมิใจมากๆ ได้มีการปรับความเข้าใจกัน ก็รับอะไรต่ออะไรก็รับ
ได้มีการปรับความเข้าใจกันยังไงบ้าง?
แม่น้ำ: ก่อนหน้านี้กระแสสังคมทำให้ปู่กับย่าดูไม่ดี วันนี้ก็มาคุยกัน ไม่ได้มีอะไร เราก็มาฝากลูก เพราะเดี๋ยวพรุ่งนี้เราก็จะกลับแล้ว แต่ไอซ์เขาก็จะอยู่จนกว่าพ่อเขาจะเผา ก็ฝากให้ปู่ย่าดูนิดหนึ่ง แต่เมื่อวานไอซ์เขาก็ไม่ถูก ที่เมื่อวานนี้เขามา และคุณพ่อ (คุณปู่) กำลังเสียใจเรื่องของโจอยู่ ยังตั้งหลักไม่ทัน ก็มาเจอเรื่องหลานอีก ซึ่งมันไม่ยุติธรรมกับกระแสสังคมที่ออกมา ซึ่งเราก็ให้ทางไอซ์มาขอโทษคุณปู่แล้ว และก็ฝากลูกให้อยู่กับคุณปู่จนวันจะเผา
ก่อนหน้านี้คือทางคุณปู่ไม่ทราบมาก่อนว่าทางโจมีลูก?
แม่น้ำ : สื่อเองทราบไม่ล่ะ 26-27 ปี เพราะมันไม่จำเป็นที่จะต้องไปบอกใคร เพราะเรากับโจก็ติดต่อกันเป็นเพื่อน เพราะว่าเราไม่ได้เลิกแบบโกรธกันอะไรกัน เราก็เลิกกันธรรมดาเท่านั้นเอง"
ก่อนหน้านี้ทำไมถึงไม่ได้เปิดเผยกับครอบครัวโจ?
แม่น้ำ : ก็ไม่ได้คุยอะไร คุยกันปกติ ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผู้ชายของลูกก็ให้โจคุยกับลูก เพราะเราเป็นผู้หญิง ก็แค่นั้นเอง ถ้าน้ำเดือดร้อนอะไรก็จะบอก แต่ไม่ได้เดือดร้อนอะไรก็เท่านั้นเอง ไม่ใช่ว่าโจไม่มีความรับผิดชอบไม่เลี้ยงดูลูก แต่เราก็เคยคุยกันมาก่อนแล้ว เราก็เข้าใจ ตอนนั้นเขายังไม่พร้อม อายุยังน้อยอยู่ มันก็เลยเป็นความเคยชินตลอด 27 ปีที่ผ่านมา แล้วก็ไม่ได้ติดต่อ ต่างคนต่างมีชีวิต ต่างมีครอบครัวใหม่เท่านั้นเอง แต่เราก็คุยกันเท่าที่อยากจะคุย แต่อาจจะขาดไปช่วงที่โจเขาไปเมืองนอก แล้วโจก็มีไปหาไอซ์ที่บ้านด้วย ครั้งสุดท้ายตอนที่ไอซ์อายุ 15 ปี
ได้คุยกับโจมั้ยว่าทำไมไม่ยอมเปิดตัว?
แม่น้ำ: เป็นเรื่องของโจเองมากกว่า เพราะโจก็โตแล้ว โจเขาตัดสินใจเอง แต่ไม่ใช่ว่าปู่กับย่าไม่รับน้อง แต่ถ้ามองในมุมมองของน้ำ โจเขายังไม่พร้อมในเรื่องฐานะ การจะรับรองบุตรหรืออะไรสักอย่างเขาก็ต้องมีมากพอ น้ำมองในตรงนั้นมากกว่า เพราะโจเองก็ไม่ได้ปฎิเสธว่าลูกไม่มีตัวตน เขาก็ไปกินข้าว ไปเที่ยวกันปกติ แต่สังคมอาจจะมองว่าเหมือนพี่น้องกันมากกว่าก็เลยไม่ได้สังเกตกัน
คนมองถึงการแสดงตัวของเรา?
แม่น้ำ : บางคนอาจจะมองว่า 27 ปีอยู่ยังไงไม่บอกข่าว มองว่าเราก็คงอยากเปิดตัว อยากดัง อยากอะไร แต่เรามองว่ามันไม่เห็นจะอะไรเลย โจเขาก็มีชีวิตของเขา เราไม่ได้โกรธไม่ได้ว่า เราเพิ่งคุยกับโจเมื่อ 2-3 เดือนที่แล้ว ไม่จำเป็นต้องติดต่อกันทุกวัน
มีกระแสสังคมว่า?
แม่น้ำ : รู้สึกว่าลูกยังไม่มีนะ มีแต่กับปู่กับย่า รู้สึกว่าปู่กับย่าดูเป็นนางมารร้าย
คนมองว่าเรามาเพื่อหวังผลประโยชน์?
แม่น้ำ :ถ้ามาหวังผลประโยชน์ เราออกมาตอนโจออกอัลบั้มแรกไม่ดีกว่าเหรอ เรายังสาวด้วย ภาพคงจะดีกว่านี้ แล้วจะมาตอนนี้ทำไมนึกออกมั้ยคะ
คุณปู่ว่ายังไงบ้างกระแสมาอย่างนี้?
คุณปู่สัมฤทธิ์ : ก็ไม่ว่าอะไร เราตั้งตัวไม่ทัน คิดอะไรไม่ทันเลย เมื่อคืนก็ไม่ได้มีอะไร สบายใจทุกอย่างไม่ได้คิดอะไร เข้าใจกันดี
ที่ต๊ะบอกว่าโทรให้ไอซ์มาดูใจพ่อ ทำไมถึงไม่ยอมมา?
ไอซ์ : ตอนนั้นก็ดึกแล้ว และยังไม่ทราบว่าเป็นอะไรมาก รู้แค่ว่าเป็นลมเลยไม่คิดว่าเป็นอะไรมากพอรู้ข่าวตอนเช้าว่าเสียแล้วเลยรีบมา
พอรู้ว่าเขาโทรไปบอก แล้วเราไม่สามารถไปดูใจครั้งสุดท้ายได้รู้สึกยังไง?
ไอซ์ :เสียดายครับ เสียดายโอกาสที่จะได้เจอพ่อ เพราะว่าเป็นครั้งสุดท้าย
ได้คุยกับต๊ะหรือยัง?
ไอซ์ :ยังครับ ยังไม่ได้เคลียร์กับใครเลย
ตอนที่ทราบข่าวได้โทรไปบอกแม่มั้ย?
ไอซ์ :โทรครับ พอทราบข่าวก็โทรหาคุณแม่ แล้วคุณแม่ก็พยายามติดต่อคุณปู่คุณย่า
หลังจากนี้จะบวชให้พ่อหรือยังไง?
ไอซ์ :ก็ยังไม่รู้ ต้องตามพิธีการเขา
ตอนนี้เข้าใจกันมากขึ้นแล้ว ยังมีความกังวลหรืออะไรมั้ย?
ไอซ์ :มีเรื่องเดียวคือกลัวคนจะเข้าใจผิดเรื่องย่าเมื่อวาน
อยากจะชี้แจงอะไรมั้ยที่เมื่อวานนี้ไม่ได้บอกใคร? ไอซ์ :ก็ยังเด็ก เลยไม่รู้ต้องทำตัวยังไง แค่คิดว่าอยากมาไหว้พ่อ อยากมางานศพพ่อก็เลยมา เลยไม่ได้บอกใคร เป็นความตั้งใจของผมเอง ก็ต้องขอโทษคุณปู่ด้วยครับที่มาช้า มาโดยไม่บอก แต่ตอนนี้เข้าใจกันดีแล้ว คุณปู่เปิดรับหลานคนนี้แล้วใช่มั้ย? คุณปู่สัมฤทธิ์ : เข้าใจกันดีแล้ว ทุกอย่างเรียร้อยดี