โตเกียว, 16 ก.พ. (ซินหัว) — เมื่อวันจันทร์ (15 ก.พ.) โยชิฮิเดะ สุงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยว่าญี่ปุ่นจะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในวันพุธ (17 ก.พ.) โดยจะฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานแนวหน้าเป็นกลุ่มแรก
สุงะกล่าวต่อที่ประชุมคณะกรรมการงบประมาณประจำสภาล่างของญี่ปุ่นว่ารัฐบาลจะพยายามฉีดวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด หลังจากเมื่อวันศุกร์ (12 ก.พ.) คณะกรรมการประจำกระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นอนุมัติการใช้งานวัคซีนที่ผลิตโดยไฟเซอร์ (Pfizer) บริษัทเภสัชภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐฯ และไบออนเทค (BioNTech) ของเยอรมนี
วัคซีนราว 400,000 โดส ถูกขนส่งจากกรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยียม มาถึงสนามบินนาริตะ ใกล้กรุงโตเกียว เมื่อวันศุกร์ (12 ก.พ.) และกระทรวงฯ ได้อนุมัติการฉีดวัคซีนให้ประชาชนที่อายุ 16 ปีขึ้นไปอย่างเป็นทางการในวันอาทิตย์ (14 ก.พ.)
รัฐบาลญี่ปุ่นจัดเตรียมตู้แช่แข็งทั่วประเทศราว 20,000 ตู้ เพื่อเก็บรักษาวัคซีนของไฟเซอร์-ไบออนเทค ที่ต้องจัดเก็บในอุณภูมิ -75 องศาเซลเซียส และจะเริ่มฉีดวัคซีนให้บุคลากรทางการแพทย์ราว 20,000 คน ตั้งแต่วันพุธ (17 ก.พ.) เป็นต้นไป
รายงานระบุว่าการฉีดวัคซีนจะเริ่มต้นที่กรุงโตเกียวก่อนจะฉีดในจังหวัดอื่นๆ โดยจะมีการเฝ้าติดตามผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดวัคซีนในหมู่แพทย์และพยาบาล ซึ่งจะได้รับวัคซีนโดสที่ 2 ในอีก 3 สัปดาห์ถัดไป
ญี่ปุ่นจะเริ่มฉีดวัคซีนให้แรงงานสาธารณสุขราว 3.7 ล้านคนในเดือนมีนาคม ตามด้วยผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป จำนวน 36 ล้านคน ตั้งแต่เดือนเมษายน ต่อจากนั้นจะฉีดให้ผู้มีอาการป่วยอื่นอยู่ก่อนและผู้ปฏิบัติงานในบ้านพักคนชรา ก่อนฉีดให้ประชาชนทั่วไป
รัฐบาลญี่ปุ่นลงนามข้อตกลงกับไฟเซอร์ แอสตราเซเนกา และโมเดอร์นา เพื่อสั่งซื้อวัคซีนในปริมาณที่เพียงพอสำหรับประชาชนญี่ปุ่นทั้งหมด 126 ล้านคน โดยไฟเซอร์ตกลงจะจัดส่งวัคซีนในปริมาณที่เพียงพอต่อประชาชน 72 ล้านคนภายในสิ้นปี 2021