ลอนดอน, 12 ก.พ. (ซินหัว) — รายงานฉบับใหม่ของรัฐสภาสหราชอาณาจักรเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (11 ก.พ.) ว่าการเสียชีวิตของผู้คนในอังกฤษราว 64,000 รายต่อปีนั้นมีความเชื่อมโยงกับมลพิษทางอากาศ โดยชุมชนด้อยโอกาสได้รับผลกระทบมากที่สุด
รายงานดังกล่าวซึ่งถูกเผยแพร่โดยสภาสามัญ (สภาล่าง) ร่วมกับสำนักสิ่งแวดล้อม อาหาร และกิจการชนบท (Defra) ของสหราชอาณาจักร เรียกร้องให้รัฐบาลจัดการปัญหาคุณภาพอากาศย่ำแย่ในระดับที่น่าตกใจของสหราชอาณาจักร พร้อมกล่าวถึงตัวอย่างการจัดการมลพิษทางอากาศที่ดีและเป็นที่ยอมรับ
ขณะกล่าวเตือนถึงความร้ายแรงของมลพิษทางอากาศและผลกระทบอันไม่สมดุลที่ชุมชนด้อยโอกาสต้องเผชิญ สมาชิกคณะกรรมการฯ ยืนยันว่าการปรับปรุงคุณภาพอากาศควรเป็นหัวใจสำคัญในการฟื้นฟูสภาพสังคม หลังการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
รายงานยังเรียกร้องให้รัฐบาลกำหนดเป้าหมายที่เข้มงวดขึ้นเพื่อลดมลพิษทางอากาศ หากรัฐบาลต้องการจะลดความเหลื่อมล้ำด้านสาธารณสุข ซึ่งมองเห็นได้ชัดเจนจากการระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากชุมชนด้อยโอกาสมากที่สุดเป็นผู้ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศน้อยที่สุด แต่กลับได้รับผลกระทบมากที่สุด
นอกจากนี้ รายงานแสดงถึงความกังวลว่ายุทธศาสตร์อากาศสะอาด (Clean Air Strategy) ในปัจจุบันของรัฐบาลจะ “ขาดแรงผลักดัน” ในการจัดการกับความท้าทายที่เกิดขึ้นจากปัญหาคุณภาพอากาศอย่างเต็มที่
“ในการฟื้นฟูหลังการระบาดใหญ่ เรามีภาระหน้าที่ทางศีลธรรมในการพัฒนาคุณภาพอากาศเป็นหัวใจสำคัญ ขณะที่ยุทธศาสตร์อากาศสะอาดนั้นเป็นขั้นตอนที่เดินมาถูกทางแล้ว แต่รัฐบาลก็ต้องมีความกระตือรือร้นมากขึ้นด้วย” นีล พาริช ประธานคณะกรรมการฯ กล่าว
ทั้งนี้ ในเดือนมกราคม 2019 รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ประกาศยุทธศาสตร์อากาศสะอาด โดยกำหนดแผนการที่จะบรรลุเป้าหมายระดับสากลโดยมีผลผูกพันทางกฎหมาย เพื่อลดการปล่อยสารพิษทางอากาศที่เป็นอันตรายที่สุด 5 ชนิดภายในปี 2030