อธิบดีกรมอนามัยแนะประชาชนที่รอให้กำลังใจ "ตูน"อย่าลืมดูแลสุขภาพตนเอง หวั่น ฝนตก แดดร้อนจัดเสี่ยงป่วยง่าย
เมื่อวันที่ 11 พ.ย.นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า แม้ขณะนี้ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว แต่หลายพื้นที่ยังมีสภาพอากาศที่แปรปรวน ทั้งฝนตก และแดดร้อนจัด ประชาชนหรือแฟนคลับที่ไปรอสนับสนุนให้กำลังใจ ตูน บอดี้สแลม และทีมนักวิ่งทุกคน ระหว่างทางการวิ่งในโครงการก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ เบตง – แม่สาย 2,191 กิโลเมตร อย่าลืมดูแลสุขภาพตนเองด้วย เพราะสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอาจะให้ป่วยเป็นไข้หวัดได้ง่าย จึงควรเตรียมตัวดูแลตนเองเพื่อความพร้อมของร่างกายและจิตใจเหมือนตูน โดยดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวัน กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ย่อยง่าย ให้พลังงานสูง เช่น แซนวิชทูน่า โจ๊กใส่ไข่ และนอนหลับให้สนิทอย่างน้อยวันละ 7-9 ชั่วโมง พกอาหารที่กินได้ง่าย เข่น ถั่วเมล็ดแห้งประเภทต่าง ๆ ผลไม้สด น้ำเปล่า เพราะเมื่อหิวก็สามารถกินรองท้องได้
“สำหรับบางพื้นที่ที่มีฝนตก ประชาชนควรใช้อุปกรณ์ป้องกัน เช่น เสื้อกันฝน ร่ม และพยายามอย่าตากฝน โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุแต่หากเปียกฝนแล้วให้รีบเช็ดตัวให้แห้งและสวมใส่เสื้อผ้าให้อบอุ่น ถ้ามีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก ควรไปพบแพทย์ ส่วนผู้ที่อยู่ในพื้นที่แดดจัด อากาศร้อน ควรสวมเสื้อผ้าที่มีสีอ่อน ไม่หนา น้ำหนักเบา ระบายความร้อนได้ดี ใช้โลชั่นกันแดดที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไปทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน พกน้ำดื่มเพื่อจิบระหว่างวัน" นพ.วชิระ กล่าว
อธิบดีกรมอนามัย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ประชาชนบางพื้นที่ที่รอภายใต้สภาพอากาศที่ร้อนจัดอาจทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำและเสี่ยงต่อการเป็นโรคลมแดด หรือโรคฮีทสโตรกได้ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่เป็นโรคอ้วน สัญญาณสำคัญของโรคนี้คือ ตัวร้อนจัดหน้าแดงเหงื่อไม่ออกต่างจากอาการเพลียแดดทั่วไปที่จะพบมีเหงื่อออก และอาจรุนแรงถึงขั้น เพ้อ ชัก ไม่รู้สึกตัวหัวใจเต้นผิดจังหวะ ทำให้ช็อก หมดสติ และถึงขั้นเสียชีวิตได้หากพบเห็นผู้มีอาการดังกล่าว การดูแลเบื้องต้นควรพาไปพักในที่ร่ม ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบตามซอกตัว คอ รักแร้ เชิงกราน ศีรษะ และใช้พัดลมเป่าระบายความร้อน จากนั้นรีบนำส่งสถานพยาบาลใกล้บ้านโดยเร็วที่สุด