บุรีรัมย์เริ่มแล้ว! กัญชาบ้านละ 6 ต้น "อนุทิน" ย้ำต้องปลูกได้ทั้งประเทศ

2021-02-11 17:45:28

บุรีรัมย์เริ่มแล้ว! กัญชาบ้านละ 6 ต้น "อนุทิน" ย้ำต้องปลูกได้ทั้งประเทศ

Advertisement

"อนุทิน" เปิดโมเดลปลูกกัญชาบ้านละ 6 ต้นที่บุรีรัมย์ แล้ว พร้อมเดินหน้าแก้ข้อกฎหมายให้ประชาชนปลูกได้หลังคาละ 6 ต้นทั้งประเทศ ระบุเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล จะต้องทำให้ได้ เหลือเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ คนไทยได้ปลูกตามกติกาแน่นอน

วันที่ 11 ก.พ.64 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมรัฐมนตรี พร้อมนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และข้าราชการการเมือง ได้เดินทางมาเปิดงาน การปลูกกัญชาโมเดล 6 ต้นนำร่อง ที่บ้านโศกนาก ต.โนนมาลัย อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งถือเป็นจุดแรกของ จ.บุรีรัมย์ ที่ให้ประชาชนปลูกกัญชาหลังคาละ 6 ต้น ตามนโยบายที่ประกาศไว้แล้ว โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้สนใจจากหลายอำเภอ บางรายเดินทางมาจากต่างจังหวัด เพื่อมาดูวิธีการปลูก ตำแหน่งและลักษณะของการปลูกหลังคาละ 6 ต้น เพื่อเอาไปเตรียมความพร้อมของตัวเอง

นายอนุทิน กล่าวว่า นโยบายกัญชาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายของรัฐบาล แต่เป็นนโยบายหลัก “กัญชาเสรีทางการแพทย์” ที่จะต้องเร่งดำเนินการ เพียงจะต้องศึกษารายละเอียดให้รอบคอบ เพราะกัญชายังจัดว่าเป็นยาเสพติด ดังนั้นจะต้องเร่งทำความเข้าใจให้กับประชาชนให้ปฏิบัติตามกฎข้อบังคับอย่างเคร่งครัด




ทั้งนี้การดำเนินการจะต้องได้รับความร่วมมือจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสหกรณ์การเกษตร และกระทรวงศึกษาธิการ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะมีส่วนในการสนับสนุนพันธุ์กัญชาที่มีคุณภาพให้แก่เกษตรกร รวมทั้งในอนาคตจะช่วยรวบรวมเมล็ดพันธุ์กัญชาและกัญชงเพื่อกระจายให้เกษตรกร และผู้ประกอบการด้วย ส่วนกระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จะช่วยอบรมผู้ประกอบการที่ต้องการนำกัญชาและกัญชงไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ และประกอบธุรกิจบริการที่มีกัญชาและกัญชงเป็นส่วนประกอบ

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า มีพืชไม่กี่ชนิดที่มีประโยชน์แทบทุกส่วนของลำต้น ซึ่งกัญชาเป็นหนึ่งในนั้น นโยบายดังกล่าว เชื่อว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจฐานรากเติบโตขึ้นได้ โดยเฉพาะเศรษฐกิจระดับชุมชน ทั้งนี้จะต้องทำความเข้าใจกับประชาชนว่าผู้ที่จะสามารถปลูกกัญชาได้ จะต้องมีการรวมตัวกันเป็นวิสาหกิจชุมชน ซึ่งหากกฎหมายผ่านประชาชนที่มีรายชื่อในกลุ่ม จะสามารถปลูกที่บ้านของตัวเองได้ โดยไม่ต้องไปปลูกรวมกัน โดยจะมี อสม.และผู้นำชุมชน เป็นผู้ดูแลให้ผู้ปลูกอยู่ในกรอบ