ทำเอาสาวๆตาลุกวาวไปกับหนุ่มรู้ใจคนใหม่ของสาว "เกรซ กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า" กันสนั่นโลกโซเชียลเลยทีเดียว ด้วยความหล่อของ "ไฮโซนิค" ที่มาเพรียบพร้อมทั้งฐานะและรูปร่างหน้าตาที่ทำเอาหัวใจสาวๆละลายกันเลยทีเดียว ล่าสุดเจอสาวเกรซในงาน"เก็บภาพบรรยากาศเปิดกล้องถ่ายทำรายการจัดจ้านย่านวิภา" เลยขออัพเดตถึงเรื่องความรักและแพลนในอนาคตของทั้งคู่โดยเจ้าตัวได้เผยว่า
วันเกิดที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง?
งานวันเกิดที่ผ่านมาก็สนุกดีนะคะ เป็นการรวมคนที่เรารักไว้ด้วยกัน
ดูเค้าตั้งใจจัดให้เรา?
ก็ต้องขอบคุณเค้า ก็ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่มาร่วมงานในตอนนั้นค่ะ คือตอนนั้นสถานการณ์มันไม่แย่เหมือนตอนนี้เนอะ ตอนนั้นยังสามารถสนุกสนานปาร์ตี้กันได้ ก็เป็นงานวันเกิดที่ค่อนข้างจะแฮปปี้และมีเซอร์ไพร์สอะไรหลายๆอย่างเกิดขึ้นค่ะ
เราก็เปย์เพื่อนด้วยแฟนเนอะ?
เราเป็นคนชอบการแบ่งปันค่ะ เราแบ่งปันได้หมด ถ้าคุณไปอยู่ในงานนั้นดิฉันก็สามารถแบ่งปันให้คุณได้เหมือนกัน จริงๆ(ยิ้ม)
ได้ถามเค้ามั้ยว่าอยากแบ่งปันหรือเปล่า?
ไม่ถามหรอกค่ะ ถ้าถามเค้าก็ไม่บอก จะเงียบ เราก็ตัดสินใจให้เลย แชร์เลย เค้าเป็นคนน่ารักค่ะ เราก็รู้ว่าเพื่อนๆแอบกรี๊ดเค้าอยู่แล้ว บรรดาสาวโสดทั้งหลาย เชียร์ก็หอมเลย(ยิ้ม) เราไม่ว่า ไม่หวง คือเกรซคบกันเหมือนเพื่อนมากเลย เรารู้นิสัยกันและชอบอะไรคล้ายๆกัน มันก็เหมือนเราเล่นกันเหมือนเพื่อนอ่ะ ไม่มีหวงกันในความรู้สึกของคู่รักอ่ะ
แต่เค้าหล่อมาก?
คุณพูดเป็นรอบที่สี่แล้วนะคุณรู้ตัวมั้ย(หัวเราะ) น่ารักค่ะ เค้าหล่อค่ะ
ภูมิใจมั้ยมีแฟนหล่อ?
ภูมิใจค่ะ(ยิ้ม) ถ้าเค้ารู้ว่าชมว่าเค้าหล่อเค้าก็จะดีใจมาก เค้าก็น่ารักนะ คือเราไม่ได้มองเค้าที่ความหล่ออ่ะ เรามองเรื่องที่เค้าทำให้เราสบายใจคือเป็นข้อดีของเค้านะคือทำให้เรายึดติดได้ว่าเค้าเป็นเซฟโซนของเราอ่ะ ให้กำลังใจกัน เราทะเลาะกันน้อยมาก เค้าเป็นคนมีความเป็นตัวของตัวเองสูง เราก็มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เราสามารถเป็นตัวของตัวเองกันได้ แต่มาเจอกันครึ่งทาง เราไม่ต้องเปลี่ยนเค้าก็ไม่ต้องเปลี่ยน เราเข้าใจในหน้าที่การทำงานกัน
วาเลนไทน์มีแพลนอะไรกันบ้าง?
ยังคิดอยู่เลยเนี่ย ยังหาที่ลงไม่ได้เลย ยังไม่รู้เลยว่าจะไปกินข้าวที่ไหน คือถ้าหาที่กินข้าวกันไม่ได้ก็มากินชาบูกันที่บ้านดิฉัน กับครอบครัวดิฉัน เพราะเป็นวันแห่งความรักเหมือนกัน คือไม่จำเป็นต้องกินกันสองคนถูกมั้ยคะ เพราะตอนนี้ร้านอาหารก็เว้นระยะห่างและรับจำนวนโต๊ะได้น้อยขึ้น และเค้าก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องวาระ เทศกาลต่างๆด้วย ก็คุยกันแล้วถ้าไม่รู้ไปไหนก็สั่งชาบูมากินกันที่บ้านค่ะ
กับคนนี้เรามองอนาคตร่วมกันไว้อย่างไร?
ก็มองนะคะ และรู้สึกว่าเรามาเจอในช่วงเวลานี้เค้าซัพพอร์ตเราในหลายๆเรื่องทำให้เรามีเป้าหมายในการทำงานชัดขึ้น บางทีเราคบบางคนที่มีปัญหาเรื่องความรักมากชีวิตเราก็โฟกัสแต่เรื่องความรัก แต่พอเราไม่มีอะไรที่ต้องโฟกัสกับเรื่องความรักมากเราก็ทุ่มทุกอย่างในงานล้วนๆเลย อย่างพิธีกรก็ได้ทำเป็นครั้งแรก เค้าก็ซัพพอร์ตเต็มที่และไม่มีปัญหาเรื่องเวลาที่ไม่ได้เจอกัน ก็โอเคขับรถมาเจอกันหน้าบ้าน ออกไปกินข้าวแถวบ้าน เราก็ซัพพอร์ตซึ่งกันและกันค่ะ
ถือว่าลงตัวที่สุดมั้ย?
ก็ลงตัวเลยค่ะ เรื่องอนาคตเป็นเรื่องของอนาคต แต่ยังไม่ใช่เร็วๆนี้ค่ะ ตอนนี้ยังสนุกสนานกับการทำงานอยู่ พอเราออกมาเป็นอิสระเหมือนเราเป็นคนใหม่อ่ะ เราเริ่มได้ทำอะไรใหม่ๆ ได้เป็นตัวเองมากขึ้น ได้ทำงานกับคนกลุ่มใหม่ๆ เหมือนเป็นการจุดไฟอีกครั้ง เลยยังไม่คิดเรื่องการวางแพลนชีวิตคู่หรือแต่งงานเพราะเรายังไม่สามารถดูแลครอบครัวเราดีได้ขนาดนั้นเลย คุณพ่อก็มีถามบ้างเพราะท่านอายุเยอะแล้วและเราเป็นลูกคนโตด้วย ท่านก็จะถามว่าวางและคิดอะไรไว้บ้าง เราก็บอกว่าเราก็คิดไว้แต่ในปีหรือสองปีนี้ไม่ใช่แน่นอนเพราะเราอยากที่จะทำงานอยู่ เราเริ่มจะมีไฟอีกครั้งหนึ่งอยากลองอะไรอีกหลายอย่าง พอบอกไปแบบนั้นคุณพ่อก็ไม่ได้ว่าอะไร คุณพ่อคุณแม่ได้กดดันอะไร
แล้วแกรนด์น้องสาวเราจะแต่งเมื่อไหร่?
อันนี้ก็ไม่รู้ ก็ต้องไปถามกันเอาเอง คิดว่าไม่น่าเหมือนกัน เพราะตอนนี้เค้าก็กำลังยุ่งที่จะออกซิงเกิลของตัวเอง เค้าออกมาทำเองและยังยุ่ง คงไม่แซงพี่ห้ามแซง(หัวเราะ)