หึงโหด! สึกผ้าเหลือง มีดฟันเมีย อ้างมีชู้

2021-02-09 13:50:46

หึงโหด! สึกผ้าเหลือง มีดฟันเมีย อ้างมีชู้

Advertisement

เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าระงับเหตุ หลังมีชายคลุ้มคลั่งใช้มีดสปาร์ต้า บุกเข้าโรงฆ่าสัตว์เทศบาลเมืองนครนายก ไล่ฟันอดีตเมีย หลังรู้ว่าแอบคบชู้ตอนบวช ก่อนขอลาบวชมาก่อเหตุ

เมื่อวันที่ 9 ก.พ.63 ที่โรงฆ่าสัตว์เทศบาลเมืองนครนายก ถนนศรีนาวา-ท่าด่าน อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครนายก อาสากู้ภัย เข้าระงับเหตุชายคลุ้มคลั่งใช้มีดสปาร์ต้าบุกเข้าจากด้านหลังไปหาอดีตเมีย หลังจับได้ว่า แอบคบชู้ หลังจากที่ตนเองไปบวชได้ 7 วัน เลยขอสึกจากพระมาเคลียร์ปัญหา แต่ภรรยาไม่ฟังเลยโมโหใช้มีดไล่ฟันบาดเจ็บสาหัส โดยหลังก่อเหตุได้ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนผู้บาดเจ็บชื่อ นาง รัตนชนก อายุ 43 ปี อาการสาหัส เสียเลือด มีบาดแผลที่หลัง แขนขวา ข้อมือขวา เป็นแผลลึก อาสากู้ภัยเร่งนำตัวส่ง รพ.นครนายก

แจ้ง 2 ข้อหาหนัก! แม่ใจยักษ์ทำร้ายลูกชาย 7 ขวบปางตาย

"กาละแมร์"ผวาหมายจับ ย่องเงียบพบ ตร.



“เหนือ-อีสาน” อ่วม! 26 จังหวัด ฝนถล่ม-ลูกเห็บตก

โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึงได้เข้าควบคุมตัว นายยุทธนา อายุ 55 ปี ผู้ก่อเหตุที่ยืนรอมอบตัว โดยสวมใส่เสื้อยีนส์แขนขาวเปื้อนเลือด กางเกงยีนส์ จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายยุทธนา ถึงสาเหตุที่ให้ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งนายยุทธนาได้บอกว่า ผู้ที่ตนทำร้ายนั้นเป็นอดีตภรรยา ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้ไปบวชที่วัดสบกเขียวได้ 7 วัน แล้วมารู้ทีหลังว่าภรรยาแอบมีชู้ ซึ่งชู้ก็มีลูกมีเมียอยู่แล้ว ส่วนตนและอดีตภรรยาก็มีลูกด้วยกัน 3 คน เป็นชาย 1 หญิง 2

สาเหตุที่ตนก่อเหตุนั้นเพราะรู้สึกโมโห หลังเดินทางมาหาที่ทำงานเพื่อขอให้กลับบ้านด้วยกันแต่อดีตภรรยาไม่ยอมกลับ ที่ผ่านมาตนโดนอดีตภรรยาหลอก เอาเงินไปเป็นหมื่นเป็นแสน ใช้เพียง 3 วันก็หมด วันนี้เลยได้เตรียมมีดมาจากที่บ้าน เพื่อจะได้เจอ ได้พูดคุย แต่อดีตภรรยากลับวิ่งหนี ตนเลยไล่ฟัน



นายยุทธนาบอกอีกว่า ที่ผ่านมาตนเริ่มรู้ระแคะระหายพอสมควร และได้ตามเฝ้าดูพฤติกรรมอดีตภรรยาที่บ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครนายก โดยนายยุทธนาได้บอกทิ้งท้ายว่า “อยากจะบอกอดีตภรรยา ให้คิดซะว่าที่ทำครั้งนี้เพราะรักมาก ยอมให้กลับตัวกลับใจ อะไรที่เสียไปแล้วก็แล้วไป แต่เขากลับไม่ฟัง”

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ สอบถาม น.ส.สุนันวดี ราชวิชา เพื่อนร่วมงานของนางรัตนชนก ผู้บาดเจ็บ ได้บอกว่า คนก่อเหตุเคยทำงานอยู่ที่นี่ และเป็นสามีของผู้บาดเจ็บ คาดน่าจะเป็นเรื่องหึงหวง โดยผู้ก่อเหตุพอเข้ามาข้างในก็ไล่ฟันนางรัตนชนก พวกตนได้พยายามห้ามแต่ก็ไม่ฟัง

ขณะที่ นายเอกกริน จันทร์ปะ เพื่อนร่วมงาน ได้บอกว่า ตนเพิ่งมาทำงานที่ได้ 7 เดือน คนก่อเหตุเคยทำงานที่นี่ แต่ถูกตำรวจจับคดีเก่าหลังจากไม่เข้ารายงานตัว จึงต้องออกจากงาน โดยคนก่อเหตุเคยทำงานในหน้าที่แทงคอหมู มีนิสัยเฉยๆเงียบๆ ตอนก่อเหตุได้เข้ามาจากทางข้างหลังโรงงาน ส่วนเศษกระจกที่ตกนั้นผู้ก่อเหตุได้ใช้มีดทุบ และหลังก่อเหตุไม่ได้หนีไปไหน แต่ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตรวจ

เพื่อนร่วมงาน ได้บอกว่า ผู้ก่อเหตุได้บุกไปยังห้องเช่าของอดีตภรรยาตั้งแต่เมื่อคืน จากนั้นได้อาละวาดทั้งที่ยังใส่ผ้าเหลือง จากนั้นญาติพี่น้องได้เข้ามาไกล่เกลี่ย ผู้ก่อเหตุจึงได้ยอมกลับวัด จนกระทั่งเช้าวันนี้มาก่อเหตุ จากนั้นแม่ของนายยุทธนาได้มาถึงที่เกิดเหตุ ได้เอามือไปจับลูกบอกให้ลูกนั่งลงในรถตำรวจ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ



แม่ : “ ฟังแม่สิลูก ฟังแม่ มึงเห็นแม่ไหมเนี่ย”

ยุทธนา : “แม่หนูขอโทษนะ”

แม่ : “มึงนี่ทำให้แม่เสียใจตลอดเลยนะ”



ยุทธนา : “แม่จะไม่เสียใจอีกต่อไปแล้วนะแม่ ผมจะได้อยู่ในที่ของผม ผมทนไม่ไหวแล้วแม่”

แม่ร้องออกมาเสียดัง : “กูบอกมึงแล้ว ทำร้ายจิตใจแม่เหลือเกิน”

ยุทธนา “แม่เลี้ยงหลานนะ”

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายยุทธนาไป สภ.เมืองนครนายก เพื่อให้สงบสติอารมณ์พร้อมส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป