กรมอุตุฯ เตือนฉบับ 3 "เหนือ-อีสาน" ระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง 7-9 ก.พ.นี้
"แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์" 3 ป. ผ่านซักฟอกฉลุย
"หมอ"เตือน!ศึกโควิดยังไม่จบหากระบบคัดกรองอ่อนด้อย
เมื่อวันที่ 6 ก.พ. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศแจ้งเตือน ฉบับที่ 3 เรื่อง พายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบริเวณประเทศไทยตอนบน มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 7-9 ก.พ.2564 โดยระบุข้อความ ว่า ช่วงวันที่ 7-9 ก.พ.2564 บริเวณประเทศไทยตอนบน จะมีพายุฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ในบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยจะเริ่มมีผลกระทบบริเวณภาคเหนือในวันที่ 7 ก.พ. ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะได้รับผลกระทบในวันที่ 8-9 ก.พ. ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรเอาไว้ด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นอุณภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียสในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
ขณะเดียวกันจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตก เคลื่อนผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ขณะที่มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ส่งผลให้หลายจังหวัดอาจได้รับผลกระทบ ประกอบด้วย
วันที่ 7 ก.พ.2564
ภาคเหนือ : จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ตาก ลำพูน ลำปาง พะเยา และน่าน
วันที่ 8-9 ก.พ.2564
ภาคเหนือ : จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเชร และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง : จ.นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก : จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ทั้งนี้ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสามารถสอบถามได้ที่สายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ตลอด 24 ชั่วโมง