ผบ.ตร.ยันจับ "เสี่ยโป้" ฐานจัดเล่นพนัน-ฟอกเงิน แย้ม "ตัวการใหญ่" ชักใยอยู่ต่างประเทศ
"หมอวรงค์"แจ้งจับ"ธนาธร"หมิ่นเบื้องสูง-ยุยงปลุกปั่น
ศบค.แถลงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 809 ราย
เมื่อวันที่ 4 ก.พ. จากกรณีเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กองปราบปราม เข้าควบคุมตัว นายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ อายุ 28 ปี ที่อาคารพาณิชย์เลขที่ 60/23-27 ถนนเพชรเกษม ซอย 44 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายเสี่ยโป้ ตามหมายจับศาลอาญาในข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์ และสมคบกันให้มีการเล่นพนันออนไลน์ เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ก่อนควบคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มที่กองบังคับการปราบปราม ล่าสุด พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ซึ่งสอบปากคำนายเสี่ยโป้ ก่อนแถลงข่าวด้วยตัวเอง ว่า การพนันออนไลน์ทุกวันนี้จับยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีระบบป้องกัน และผู้จัดก็มีความรู้ทางกฎหมายในการหาทางปิดบังพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการพนัน ซึ่งคดีนี้ นายเสี่ยโป้ ผู้ต้องหาทราบดีว่าผิดกฎหมาย เพราะถูกจับดำเนินคดีมาหลายครั้ง โดยมีคดีหลัก 2 คดีในพื้นที่ สน.ภาษีเจริญ และ สน.บางเขน ซึ่งคดียังไม่สิ้นสุด และการถูกจับครั้งนี้ก็เป็นคดีใหม่ ซึ่งตำรวจก็มั่นใจว่าจะสามารถฟ้องศาลได้ สำหรับการปฎิบัติการในครั้งนี้ พบเว็บพนันออนไลน์ 6 เว็บไซต์เกี่ยวข้องกับเครือของนายเสี่ยโป้ โดยหลังจากนี้จะใช้เว็บไซต์ที่ตรวจพบเหล่านี้เป็นหลัก เพื่อขยายหาเครือข่ายอื่นๆ ต่อไป
ด้าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ระบุว่า คดีนี้พบผู้ต้องหามีพฤติการณ์แบ่งงานกันทำเป็นขั้นตอน ทั้งประกาศเชิญชวนและจัดให้มีการเล่นการพนัน และจากการตรวจค้นพบบัญชีที่เกี่ยวกับการพนันจำนวนมาก ทั้งบัญชีรับโอนเงิน บัญชีจ่ายเงิน และบัญชีพักเงิน ซึ่งมีเงินหมุนเวียนมากกว่า 1,000 ล้านบาท รวมทั้งมีการฟอกเงินโดยแปลงเป็นทรัพย์สินกิจการชนิดอื่นด้วย โดยหลังจากนี้ทรัพย์ที่ตรวจยึดได้จะดำเนินการตามกฎหมายฟอกเงินต่อไป
ขณะที่ พล.ต.ต.จิรภพ ภูมิเดช รอง ผบช.ก.ระบุว่า ตรวจค้นครั้งนี้เป็นไปตามหมายจับ 31 หมาย ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับพนันออนไลน์ ทั้งจัดหาเชิญชวนรวมถึงฟอกเงิน โดยได้จับกุมได้ 10 รายตามหมายจับ ส่วนอีก 2 รายเป็นความผิดซึ่งหน้า และเป็นคดีอาวุธปืน 1 ราย และคดียาเสพติดไอซ์ 5 กรัมอีก 1 ราย รวมจับกุมผู้ต้องหา 12 ราย ส่วนการจับกุมครั้งนี้มีการวางแผนร่วมกันหลายฝ่ายทั้ง ศปอส.ตร. กองปราบปราม กระทรวงดีอีเอส มานานกว่า 4 เดือน โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาทำคดีให้มีความรัดกุม และรอบคอบ เพราะกลุ่มคนเหล่านี้มีความรู้ในการปิดบังซ่อนเร้นพยานหลักฐานการเปิดเล่นพนันออนไลน์ จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ากลุ่มคนเหล่านี้มีเงินหมุนเวียนพันล้านบาท ซึ่งเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน ฐานสมคบกันฟอกเงิน โดยมีผู้อื่นเปิดบัญชีให้ โดยทางตำรวจมั่นใจว่ามีพยานหลักฐานแน่นหนาพอจะเอาผิดผู้ต้องหาได้ จึงมีการขอออกหมายจับผู้ต้องหากว่า 30 ราย ขณะนี้ยังไม่มีการจัดลำดับความสำคัญของผู้ต้องหา แต่จากการสืบสวนเส้นทางการเงินจึงรู้ว่าตัวการคนสำคัญอยู่ต่างประเทศ โดยหลังจากนี้จะมีการสอบสวนผู้ต้องหาเพิ่มเติม เพื่อขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีไปตามกฎหมาย