หางโจว, 28 ม.ค. (ซินหัว) — มณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของจีนเตรียมสร้างบ้านพักคนชราระดับชุมชนเพิ่มในปีนี้ เพื่อรับมือกับจำนวนประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
หวังเจี้ยนโหว ผู้อำนวยการสำนักกิจการพลเรือนมณฑลเจ้อเจียงระบุระหว่างการประชุมประจำปีของสภาผู้แทนประชาชนระดับมณฑลว่า เจ้อเจียงมุ่งสร้างบ้านพักคนชราในบริเวณใกล้เคียงกับที่พักอาศัย
ในปัจจุบันของผู้สูงอายุ
ชาวจีนสูงอายุส่วนมากอาศัยบริการดูแลถึงที่บ้าน โดยในเจ้อเจียงมีผู้สูงอายุใช้บริการแบบนี้ถึงร้อยละ 98.5 ขณะที่มีบ้านพักคนชราทั้งหมด 2,458 แห่งและ 2 ใน 3 เป็นของเอกชน
ในประเทศจีนบ้านพักคนชราส่วนมากตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองและมีผู้พักอาศัยจำนวนมาก ทำให้ผู้สูงอายุหลายคนไม่ต้องการไปใช้บริการ นอกจากนี้บรรดาลูกหลานของผู้พักอาศัยยังไปเยี่ยมไม่สะดวกอีกด้วย
สถิติระบุว่าเจ้อเจียงเป็นหนึ่งในมณฑลที่มีประชากรสูงวัยจำนวนมากที่สุดของจีน โดยประชาชนวัย 60 ปีขึ้นไปมีทั้งหมด 12 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 23 ของประชากรในมณฑล ผู้สูงวัยจำนวนมากไม่มีลูกหลาน และ
พวกเขาต้องการการดูแลทั้งทางร่างกายและจิตใจ
เจ้อเจียงดำเนินการตามยุทธศาสตร์แห่งชาติเพื่อรับมือประชากรสูงอายุอย่างแข็งขัน ด้วยการบูรณาการบ้าน ชุมชน และสถาบัน ทั้งยังสร้างระบบที่ผสานบริการทางการแพทย์กับบริการด้านสุขภาพไว้ด้วยกัน
“เราผลักดันและสนับสนุนการก่อตั้งบ้านพักคนชราแบบมืออาชีพขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในชุมชน และพยายามจะทำให้คนชราในเขตตัวเมืองทุกคนสามารถหาบ้านพักคนชราที่อยู่ห่างจากบ้านไม่เกิน 1 กิโลเมตรได้”
หวังกล่าว
เขตซีหูของนครหางโจว เมืองเอกของมฑณลเจ้อเจียงเริ่มดำเนินโครงการนำร่องที่เกี่ยวข้อง โดยก่อตั้งบ้านพักคนชราระดับชุมชนที่มีเตียงรองรับผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงราว 100 เตียง
แบบสำรวจทางการเผยว่าบ้านพักคนชราระดับชุมชนได้รับความนิยมสูงในหมู่คนชราและลูกหลานที่อาศัยอยู่ในชุมชนที่มีประชากรสูงอายุจำนวนมาก
รายงานการทำงานของรัฐบาลระดับมณฑลปี 2021 ระบุว่าหน่วยงานรัฐของเจ้อเจียงมุ่งสร้างบ้านพักคนชราระดับชุมชนเพิ่ม 340 แห่ง ในตำบลและย่านต่างๆ ทั่วมณฑลภายในสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ จำนวนประชาชนอายุ 60 ปีขึ้นไปในเจ้อเจียงอาจสูงแตะ 15 ล้านคนภายในปี 2025 คิดเป็นร้อยละ 28 ของประชากรทั้งมณฑล และเพิ่มสูงถึง 1 ใน 3 ภายในปี 2035