ศาลอุทธรณ์ เลื่อนอ่านคำพิพากษาคดี "4 แกนนำ กปปส." ชุมนุมขับไล่ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์"
ลุ้น"ก.แรงงาน"จ่อชงเยียวยา"มนุษย์เงินเดือน"สู้โควิด
อธิบดีกรมควบคุมโรคจี้ กทม.ฟันก๊วน "ดีเจมะตูม"ปกปิดไทม์ไลน์
เมื่อวันที่ 28 ม.ค. มีรายงานจากศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ว่า นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และอดีตประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง และสภาปฏิรูปการเมือง (สปช.) พร้อมด้วย นายเสรี วงศ์มณฑา นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด, นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม. และ นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม กรรมการบริษัท เนชั่นมัลติมีเดียกรุ๊ป ได้เดินทางมาศาลเพื่อฟังคำพิพากษาอุทธรณ์ในคดีกบฏ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 พ.ย.2556 ทั้ง 4 คน เข้าร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น โดยมี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส. เดินทางมาให้กำลังใจ
โดย นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ ว่า ขณะนี้บางคดีจบในศาลชั้นต้น บางคดีถึงศาลอุทธรณ์ โดยจำนวนหนึ่งไปถึงศาลฎีกา ซึ่งมีการทยอยอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา บ้างแล้ว บางรายถูกลงโทษจำคุก เพราะศาลพิจารณาพยานหลักฐานว่าเป็นการขัดขวางการเลือกตั้ง บุกรุกสถานที่ราชการ โดยมี 4 รายถูกลงโทษจำคุก และได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานอภัยโทษออกจากคุกมาแล้ว บางคนรับโทษไม่รอลงอาญา เสียชีวิตไปก็มี ที่ผ่านมาเราเคลื่อนไหวทำงานให้ประเทศชาติบ้านเมืองก็ถูกดำเนินคดี วันนี้เป็นคดีกบฏเล็ก 4 คน ซึ่งศาลชั้นต้นยกฟ้องไปแล้ว แต่อัยการมีคำสั่งอุทธรณ์ ศาลจึงนัดฟังคำพิพากษา ส่วนคดีชุดใหญ่อีก 39 คน ศาลจะนัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 24 ก.พ.นี้ เราต่อสู้คดีตามปกติ โดยเคารพยึดมั่นในกระบวนการยุติธรรม กฎหมายก็คือกฎหมาย ทุกคนจะคิดอ่านอย่างไรก็ไม่เป็นไร เป็นสิทธิเสรีภาพ แต่การใช้สิทธิเสรีภาพต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า คดีนี้พนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง 8 ข้อหา ฐานร่วมกันเป็นกบฏ, กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หรือวิธีอื่นใดที่ไม่ใช่การกระทำในความมุ่งหมายตามรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือความไม่สงบในราชอาณาจักรฯ, อั้งยี่ ซ่องโจร, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปโดยใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองโดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ เจ้าพนักงานสั่งให้เลิกการกระทำนั้นแต่ไม่เลิก ยุยงให้ร่วมกันหยุดงาน การร่วมกันปิดงานงดจ้างเพื่อบังคับรัฐบาล, ร่วมกันบุกรุกและร่วมกันขัดขวางเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง, ร่วมกันขัดขวางการปฏิบัติงานของ กกต. ซึ่งคดีนี้ศาลชั้นต้น พิพากษายกฟ้อง เนื่องจากพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมายังไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่าจำเลยทั้ง 4 คนได้กระทำความผิดตามฟ้องทั้ง 8 ข้อหา จึงพิพากษายกฟ้อง ต่อมาจำเลยทั้งหมดจึงเดินทางมายังศาล เพื่อรับฟังคำพิพากษา แต่ศาลอุทธรณ์ เลื่อนอ่านคำพิพากษา เนื่องจากยังทำคำพิพากษาไม่แล้วเสร็จ จึงเลื่อนอ่านคำพอพากษา เป็นวันที่ 6 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.