“อ็อกแฟม” เผยโควิด-19 ทำเหลื่อมล้ำรวยกระจุก จนกระจาย

2021-01-26 13:00:26

“อ็อกแฟม” เผยโควิด-19 ทำเหลื่อมล้ำรวยกระจุก จนกระจาย

Advertisement


9 เดือนที่ผ่านมา คือช่วงระยะเวลาที่มหาเศรษฐี 1,000 อันดับแรกของโลก สะสมความมั่งคั่งร่ำรวยหลังการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 แต่ในช่วงเวลากว่า 10 ปี กลุ่มประเทศที่ยากจนที่สุดในโลกในเวลาในช่วงนี้ดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากความยากจน จากรายงานความเหลื่อมล้ำประจำปีของ “อ็อกแฟม อินเตอร์เนชั่นแนล”

รายงานของมูลนิธิด้านการกุศล “อ็อกแฟม” (Oxfam) ซึ่งเปิดเผยในวันอาทิตย์ ก่อนการประชุมเสมือนจริง “เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรั่ม” หรือการประชุมเศรษฐกิจโลก ที่ปกติจะจัดขึ้นในเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีผู้นำทางการเมืองและการเงินเข้าร่วมการประชุม ระบุถึงผลกระทบที่แตกต่างกันจากการระบาดของไวรัสโควิดทั่วโลก ซึ่งการระบาดของไวรัสอาจทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจมากขึ้น ในเกือบทุกประเทศพร้อมกัน นับเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้น



บรรดามหาเศรษฐีผู้มั่งคั่ง ทั้งนายเจฟฟ์ เบโซส ผู้ก่อตั้ง, ซีอีโอและประธานของบริษัทค้าปลีกออนไลน์ “แอมะซอน” และนายอีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า “เทสลา” ต่างก็มีทรัพย์สินพอกพูนเพิ่มขึ้นมหาศาลระหว่างการระบาดของไวรัสโควิด ขณะที่คนยากจนทั่วโลกต้องพบกับความยากลำบากอย่างหนักอีกหลายปี ขณะเดียวกัน “อ็อกแฟม” ก็เรียกร้องให้ใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ

การระบาดของไวรัสโควิด-19 จู่โจมทำลายเศรษฐกิจโลกเสียหายยับเยิน ซึ่งทำให้กลุ่มคนที่มีฐานะยากจนและอ่อนแอลำบากหนักที่สุด โดยบรรดาผู้หญิงและแรงงานชายขอบ เผชิญหน้ากับความเลวร้ายที่สุดของการสูญเสียตำแหน่งงาน และธนาคารโลก ก็เตือนว่ามีประชาชนมากกว่า 100 ล้านคน อาจถลำเข้าสู่ภาวะยากจนขั้นวิกฤต



“อ็อกแฟม” บอกว่า อาจต้องใช้เวลายาวนานกว่า 10 ปีในการลดจำนวนประชากรที่เลี้ยงชีพด้วยฐานะยากจน ให้กลับมาพอมีอันจะกิน ในระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด แต่ในทางกลับกัน ทรัพย์สินหรือความมั่งคั่งของบรรดามหาเศรษฐีโลก กลับเพิ่มขึ้นถึง 3.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐระหว่างเดือนมีนาคมถึงธันวาคม พ.ศ.2563 มาอยู่ที่ 11.95 ล้านล้านดอลลาร์

คนที่มีฐานะร่ำรวยที่สุด 10 คน นอกจากนายเบโซสและมัสก์แล้ว ก็ยังมีแบร์นาร์ด อาร์โนลด์ เจ้าของสินค้าแบรนด์เนมหรูรายใหญ่สุด LVMH, บิล เกตส์ ผู้ก่อตั้ง เจ้าของไมโครซอฟท์ และมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอเฟชบุ๊ก พบว่ามีทรัพย์สินสุทธิรวมกัน เพิ่มขึ้นประมาณ 540,000 ล้านในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งบรรดานักวิจัยประเมินว่า ทรัพย์สินของพวกเขาก้อนนี้ เพียงพอที่จะช่วยเหลือผู้คนให้หลุดพ้นจากความยากจนอันเป็นผลมาจากไวรัสระบาด และจ่ายค่าวัคซีนให้ประชาชนทุกคนในโลกใบนี้ได้อย่างสบาย