วุฒิสภาถก 3 วาระรวดผ่านร่าง พ.ร.บ.ทำแท้ง

2021-01-25 22:15:46

วุฒิสภาถก 3 วาระรวดผ่านร่าง พ.ร.บ.ทำแท้ง

Advertisement

วุฒิสภาถก 3 วาระรวด นานเกือบ 8 ชม. ผ่านร่าง พ.ร.บ.ทำแท้ง ดำเนินการตามขั้นตอนประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป

ก๊วน "ดีเจมะตูม" นักร้องนักแสดงหนุ่มวัย 23 ปีติดโควิด-19

ศิริราชเจาะคอรักษา ผวจ.สมุทรสาคร

"มาช่า"โชว์โยคะท่ายาก อวดหุ่นเป๊ะในวัย 50 กะรัต

เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา ซึ่งพิจารณาพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่...) พ.ศ.... ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติเห็นชอบ ว่าด้วยการแก้ไขเนื้อหาเกี่ยวกับการทำแท้งของหญิงตั้งครรภ์ แบบ 3 วาระรวด โดยตั้งกรรมาธิการพิจารณาแบบเต็มสภา โดยหลังจากที่ประชุมได้ลงมติรับหลักการ แล้วด้วยคะแนนเสียง 187 เสียงต่อ 5 เสียง และงดออกเสียง 15 เสียง

ที่ประชุมได้เข้าสู่พิจารณาในวาระสอง เมื่อเวลา 16.44 น.​โดยในมาตราที่แก้ไข มาตรา 301 ว่าด้วย หญิงใดทำให้ตนเองแท้งลูกหรือยอมให้ผู้อื่นแท้งลูก ขณะมีอายุครรภ์เกิน12 สัปดาห์ ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นั้นที่ประชุมวุฒิสภาไม่ติดใจอภิปราย หรือขอแก้ไข

ส่วนการแก้ไขมาตรา 305 ว่าด้วยเงื่อนไขที่เป็นบทยกเว้นการรับโทษของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและตามหลัเกณฑ์ของแพทยสภา กรณีการทำแท้งให้หญิงที่ตั้งครรภ์ ใน 5 กรณี ซึ่งที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้แก้ไขและปรับเพิ่มในกรณี (5) ที่กำหนดว่า หญิงอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ (3-5 เดือน) ยืนยันยุติตั้งครรภ์ ภายหลังการตรวจและรับคำปรึกษาทางเลือกจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและผู้ประกอบวิชาชีพอื่น ตามหลักเกณฑ์ และวิธีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของแพทยสภาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ที่ประชุมวุฒิสภา ได้อภิปรายอย่างกว้างขวางและมีความเห็นให้ตัดออก เนื่องจากเป็นข้อยกเว้นการทำแท้งที่ไม่สอดคล้องกับมาตรา 301 อีกทั้งมองว่าเป็นการส่งเสริมต่อการตัดตอนชีวิตของทารภในครรภ์

ทั้งนี้นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ส.ว. เสนอให้แก้ไข มาตรา 305 (5) โดยระบุให้ตัดออก และนำความที่ระบุให้ต้องผ่านการตรวจและปรึกษาจากหน่วยงานของแพทยสภา บัญญัติไว้ (4) ที่มีเงื่อนไขหญิงที่ตั้งครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ ยืนยันยุติจะตั้งครรภ์ ทำให้ต้องรับคำปรึกษาจากหน่วยงานของแพทยสภา

นอกจากนั้นยังมีความเห็นของส.ว. ที่อภิปรายให้ปรับแก้อื่นๆ เช่น (2) ว่าด้วยความจำเป็นต้องทำแท้งเพราะมีเสี่ยงอย่างมากหรือมีเหตุผลทางการแพทย์อันควรเชื่อได้ว่าทารกคลอดออกมาจะมีความผิดปกติถึงขนาดทุพพลภาพอย่างร้ายแรง ที่ขอให้ตัดคำว่า ทุพพลภาพอย่างร้ายแรง

ทั้งนี้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงต่อการตั้งข้อสังเกตของส.ว.ที่อภิปรายว่าความห่วงใยของส.ว.ทีอภิปราย และให้คำแนะนำนั้น จะถูกนำไปกำหนดไว้ในระเบียบของแพทยสภา ซึ่งเชื่อว่าการอภิปรายของส.ว.หน่วยงานจะรับฟังและนำไปทำให้ดีที่สุด อย่างไรก็ตามในการประชุม ครม.​วันที่ 26 ม.ค.นี้ ตนจะหารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมการด้านระเบียบ เผื่อให้การเปลี่ยนผ่าน ในวันที่ 12 ก.พ.นี้ เป็นไปด้วยความโล่งอกของทุกฝ่าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวาระสอง ที่ประชุมวุฒิสภา ได้ใช้เวลาพิจารณา กว่า 4 ชั่วโมง ก่อนจะลงมติวาระสอง รายประเด็นที่ส.ว.เสนอแก้ไข ทั้งส่วนของ มาตรา 305 (2) , (3) และ (5) พบว่าเสียงข้างมากยืนยันให้คงไว้ตามร่างเดิมที่รับมาจากสภาผู้แทนราษฎร จากนั้นได้ลงมติวาระสาม เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ด้วยคะแนนเสียงข้างมาก 165 เสียง ต่อ 7 เสียง งดออกเสียง 21 เสียง และไม่ลงคะแนน 1 เสียง

ทั้งนี้ ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ส.ว.ใช้เวลาพิจารณานานเกือบ 8 ชั่วโมงก่อนจะลงมติวาระสาม ทำให้ร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวดำเนินการตามขั้นตอนการประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป