ผู้นำสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ พยายามที่จะเดินทางเยือนเขตปลอดทหารระหว่าง 2 เกาหลีโดยไม่มีการประกาศล่วงหน้า แต่เพราะสภาพอากาศเลวร้าย ทำให้ต้องเดินทางกลับ
ซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว แถลงว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ พยายามที่จะเดินทางเยือนเขตปลอดทหาร หรือดีเอ็มแซด ที่อยู่ระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้โดยไม่มีการประกาศล่วงหน้าเมื่อเช้าวันนี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเยือนเกาหลีใต้ แต่ต้องล้มเลิก และเดินทางกลับ เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย โดยทรัมป์เดินทางไปพร้อมกับประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ของเกาหลีใต้ ซึ่งผู้นำสหรัฐพยายามถึง 2 ครั้งที่จะไปพื้นที่ดังกล่าวให้ได้ แต่ต้องยกเลิกเพราะหมอกลงจัด ทั้งนี้ ทรัมป์เดินทางด้วยเครื่องบินมารีน วัน มุ่งหน้าสู่ดีเอ็มแซด แต่เครื่องบินต้องลงจอดหลังขึ้นบินได้เพียง 18 นาที
แซนเดอร์ส กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ความพยายามดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งระหว่าง 2 ประเทศ ทรัมป์รู้สึกผิดหวังที่ความพยายามล้มเหลว และกล่าวเพิ่มเติมว่า การเยือนดีเอ็มแซด เป็นแผนการที่กำหนดไว้เป็นความลับ ก่อนทรัมป์เดินทางออกจากกรุงวอชิงตัน เพื่อเยือนเอเชีย
ทำเนียบขาว เคยแถลงก่อนหน้านี้ว่า ทรัมป์จะไม่ไปเยือนดีเอ็มแซด เนื่องจากมีเวลาจำกัด ในกำหนดการที่หนาแน่นของประธานาธิบดี และบอกว่า เขาจะเยือนฐานทัพแคมป์ ฮัมฟรีย์ส ฐานทัพร่วมสหรัฐ-เกาหลีใต้แทน ซึ่งก็เยือนไปเมื่อวานนี้
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ กล่าวว่า เกาหลีใต้จะสั่งซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของสหรัฐเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้ในการป้องกันภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ โดยเขาแถลงข่าวร่วมกับประธานาธิบดีมุน ซึ่งทรัมป์เตือนเกาหลีเหนือว่า สหรัฐพร้อมใช้กำลังทหารเต็มอัตราศึก หากจำเป็นเพื่อปกป้องตนเองและพันธมิตร ส่วนมุน กล่าวว่า เขาหวังว่า การเยือนของทรัมป์จะเป็นจุดเปลี่ยนในความพยายามคลี่คลายความตึงเครียดกรณีโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ