วอชิงตัน, 20 ม.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันพุธ (20 ม.ค.) โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งประธานาธิบดี เพื่อนำพาสหรัฐฯ กลับเข้าร่วมข้อตกลงปารีส 2015 ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
หลังจากเข้าพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐฯ ได้ไม่กี่ชั่วโมง ไบเดนตวัดปลายปากกาภายในห้องทำงานประจำทำเนียบขาว หักล้างการตัดสินใจก่อนหน้านี้ของโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนก่อน ที่ต้องการถอนตัวออกจากข้อตกลงดังกล่าว
“เรากำลังจะต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในแบบที่เราไม่เคยทำมาก่อน” ไบเดนกล่าวก่อนลงนาม
ด้านอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ แสดงความยินดีกับการประกาศกลับเข้าร่วมข้อตกลงฯ ของรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่ ระบุว่า “ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ไบเดนดำเนินการนำสหรัฐฯ กลับเข้าร่วมข้อตกลงฯ อีกครั้ง และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่างรัฐบาล เมือง รัฐ ธุรกิจ และผู้คนทั่วโลก เผชิญหน้ากับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ”
ไบเดนเคยให้คำมั่นว่าจะเข้าร่วมข้อตกลงฯ อีกครั้งในวันแรกที่รับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยเมื่อวันที่ 4 พ.ย. ปีก่อน เขาโพสต์ทวิตเตอร์ว่า “วันนี้เป็นวันที่รัฐบาลทรัมป์ถอนตัวออกจากข้อตกลงฯ อย่างเป็นทางการ และในอีก 77 วันข้างหน้า รัฐบาลไบเดนจะเข้าร่วมข้อตกลงนี้อีกครั้ง”
อนึ่ง ทรัมป์ประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงฯ ไม่นานหลังจากเขาเข้ารับตำแหน่งในปี 2017 โดยอ้างความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของข้อตกลงดังกล่าวต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ไบเดนเลือกจอห์น เคอร์รี อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ เป็นทูตพิเศษด้านสภาพภูมิอากาศ ซึ่งบ่งชี้ถึงความสำคัญของประเด็นนี้ในนโยบายต่างประเทศของเขา
ทั้งนี้ ข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเกือบทุกประเทศทั่วโลกร่วมลงนามในปี 2015 มีจุดมุ่งหมายต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และตั้งเป้าหมายควบคุมอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นสูงกว่า 2 องศาเซลเซียสจากระดับยุคก่อนอุตสาหกรรม