"ธณิกานต์"เผย สภาฯผ่านร่างพ.ร.บ.อนุญาตทำแท้ง อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ ชี้เจตนารมณ์ไม่ได้สนับสนุนการทำแท้ง แต่เป็นช่องทางช่วยผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อม
เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระเร่งด่วน คือ การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายอาญา ความผิดฐานทำให้แท้งลูก เพื่อให้มีผลบังคับใช้ ก่อนคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญมีผล คือ ภายในวันที่ 12 ก.พ. 2564 ซึ่งมีเจตนารมณ์สำคัญเพื่อประโยชน์ต่อสิทธิและความปลอดภัยของสตรี ซึ่งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีนายสันติ กีระนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน กมธ.วิสามัญ ร่างกฎหมายดังกล่าว
"อัจฉริยะ"ปูด 2 ซิมฆ่า "น้องชมพู่" แลกตัดเหล็กไหล ได้เงินไปกว่า 10 ล้าน
"อัจฉริยะ"ชี้คน 2 ซิมฆ่า "น้องชมพู่"
น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองประธาน กมธ. กล่าวว่า หัวใจสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ คือ สิทธิมนุษยชนของผู้หญิงที่สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ด้วยตนเองอย่างปลอดภัยและไม่มีความผิด และสอดคล้องกับแนวทางคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ การกำหนดอายุครรภ์เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและสำคัญมาก ซึ่งวันนี้สภาผู้แทนราษฎรมีมติรับร่างปรับปรุงแก้ไข มาตรา 301 ซึ่งมีการกำหนดอายุครรภ์ที่สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ด้วยตนเอง คือ ไม่เกิน 12 สัปดาห์ และร่างปรับปรุงแก้ไข มาตรา 305 เพิ่มเหตุยกเว้นให้ครอบคลุมและชัดเจน เป็นการกระทำของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและตามหลักเกณฑ์ของแพทยสภาในกรณีที่ผู้กระทำไม่มีความผิดใน 5 กรณีดังต่อไปนี้ คือ 1.มีความเสี่ยงต่อสุขภาพทางกายหรือสุขภาพทางจิตของหญิงผู้ตั้งครรภ์ 2.มีความเสี่ยงผิดปกติของทารกในครรภ์ 3.ตั้งครรภ์โดยมีเหตุจากการกระทำผิดทางเพศ 4.อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ 5.อายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ ซึ่งผ่านการรับคำปรึกษาและยืนยันที่จะยุติการตั้งครรภ์
"การแก้ไขกฎหมายประเด็นการยุติการตั้งครรภ์ เป็นหนึ่งในกลไกการขับเคลื่อนที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของผู้หญิงอย่างเป็นรูปธรรม โดยไม่ละเลยต่อข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในสังคมว่า ข้อจำกัดทางกฎหมายไม่ได้ทำให้ความต้องการในการยุติการตั้งครรภ์ลดลง แต่ก่อให้เกิดการยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัยมากขึ้นสำหรับผู้หญิง เจตนารมณ์ในการแก้ไขกฎหมายนี้จึงเป็นไปเพื่อเป็นทางออกด้านนิติบัญญัติให้สิทธิมนุษยชนของผู้หญิงที่ไม่มีความพร้อมความสามารถในการเลี้ยงดูบุตรสามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ด้วยตนเองอย่างปลอดภัยและไม่มีความผิด เพื่อสอดคล้องกับแนวทางคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เปิดโอกาสให้ผู้ไม่พร้อมจริงๆได้เข้าสู่กระบวนการให้คำปรึกษาทางเลือก หรือ การรับบริการทางการแพทย์ได้มากขึ้น เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตของผู้หญิงไทยทุกคน” น.ส.ธณิกานต์ กล่าว