"สุรเชษฐ์"ชี้ค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว 104 บาทแพงไป

2021-01-16 22:35:15

"สุรเชษฐ์"ชี้ค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว 104 บาทแพงไป

Advertisement

"สุรเชษฐ์"ชี้ค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว 104 บาทแพงไป ซัดจับประชาชนเป็นตัวประกัน ปมขยายสัมปทาน

เมื่อวันที่ 16 ม.ค. นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้ความเห็นกรณีที่กรุงเทพมหานคร เปิดเผยเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 64ว่าจะมีการประกาศอัตราค่าโดยสารใหม่เนื่องจากการกำหนดฟรีค่าโดยสารในส่วนต่อขยายกำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 15 ม.ค.64 และได้เผยแพร่ “ประกาศกรุงเทพมหานคร” เรื่อง “การกำหนดค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว” ลงวันที่ 15 ม.ค. 64 ส่งผลให้ค่าโดยสารใหม่มีผลตั้งแต่ 16 ก.พ. 64 โดยไม่มีการเก็บค่าแรกเข้าซ้ำซ้อนและให้จัดเก็บอัตราค่าโดยสารตลอดเส้นทางไม่เกิน 104 บาทนับว่าข้อเรียกร้องจากประชาชนเป็นผลอยู่บ้าง โดย กทม. ยอมถอยเปลี่ยนแผน จากเดิม 158 บาท มาเป็น 104 บาท หรือลดลงมา 54 บาท จากการไม่คิดค่าแรกเข้าซ้ำซ้อนระหว่างส่วนหลักและส่วนต่อขยาย อย่างไรก็ตาม ราคาตลอดเส้นทางดังกล่าวก็ยังแพงเกินไปอยู่ดี

รวมเลขเด็ด 10 สำนัก งวดวันที่ 17 ม.ค.2564

เปิด 4 กลุ่มไม่ได้รับเงินเยียวยา 3,500 บาท 2 เดือน

"หลายคนอาจยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงแพง ต้นตอของปัญหาที่แท้จริงก็คือ รัฐอุดหนุนไม่เพียงพอ เพราะการลงทุนแบบไม่พอเพียง กล่าวคือ พอเอาเงินไปลงทุนเพื่อก่อสร้างเยอะเกินจำเป็นก็เหลือเงินอุดหนุนน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ต้องเก็บแพง ๆ จากผู้โดยสาร รัฐบาลก็ทราบดีว่าค่าโดยสารแพง แต่อยากเก็บเงินไว้สร้างหรือผลาญกับโครงการอื่นเพิ่มเติม จึงพยายาม Hot Fix โครงการนี้โดยให้ กทม. เอารายได้จากอนาคตมาโปะคล้ายการกู้เพิ่ม และพยายามขยายสัมปทานออกไปอีก 30 ปี ทั้งที่ยังเหลืออีก 9 ปี ซึ่งเรื่องนี้มีความไม่ชอบมาพากลหลายประการเกิดขึ้นจากการใช้อำนาจพิเศษตามมาตรา 44 แต่งตั้งคนของตัวเองไปมุบมิบเจรจา และไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ. ร่วมทุน" นายสุรเชษฐ์ กล่าว

นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า สภาผู้แทนเคยพิจารณาประเด็นนี้แล้ว และกรรมาธิการเสียงข้างมาก ทั้งจากฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล 'ไม่เห็นด้วยกับการขยายสัมปทาน' แต่ล่าสุด กทม. ยังดึงดันจะขยายสัมปทาน โดยใช้ผลการมุบมิบเจรจาตามมาตรา 44 โดยออกมาขู่ประชาชนว่าหากไม่ขยายก็จะแพงอย่างนี้ หากยอมขยายก็จะลดเหลือ 65 บาทตลอดสาย นี่คือจับประชาชนเป็นตัวประกันชัดๆ  ประเด็นสำคัญคือหากจะขยายสัมปทานที่มีมูลค่าหลายแสนล้านบาทแบบนี้ ต้องเจรจาบนพื้นฐานของกฎหมายปกติและเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส นอกจากนั้น การขยายสัมปทานออกไปอีก 30 ปี จะส่งผลให้การแก้ปัญหาอย่างบูรณาการ กับรถไฟฟ้าสายสีอื่นและระบบรถเมล์ ช้าออกไปอีก 30 ปี ดังนั้น แม้จะแก้ปัญหาค่าโดยสารแพงในเส้นนี้ได้ เส้นอื่นก็ยังคงมีปัญหาอยู่ การเชื่อมต่อกับสายสีอื่นหรือระบบรถเมล์ก็ยังคงมีปัญหาอยู่ ทุกวันนี้ แค่ตั๋วร่วมง่าย ๆ ยังทำไม่ได้เลย ปัญหาค่าแรกเข้าซ้ำซ้อน กับสายสีอื่นก็จะยังคงอยู่ต่อไป ไม่ต้องพูดถึงการยกเว้นค่าแรกเข้าระหว่างรูปแบบการเดินทาง เช่น ขึ้นรถเมล์ไปต่อรถไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งเรื่องเหล่านี้จุดพีคก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องเป็นคนทุบโต๊ะ คงต้องติดตามกันต่อว่าสุดท้ายแล้วผลจะออกมาอย่างไร