โพลหนุน"บิ๊กตู่"พลิกวิกฤตโควิด ปฏิรูป"วงการตำรวจ"

2021-01-16 10:40:56

โพลหนุน"บิ๊กตู่"พลิกวิกฤตโควิด ปฏิรูป"วงการตำรวจ"

Advertisement

"ซูเปอร์โพล" ชี้ ปชช.หนุน "บิ๊กตู่" นำแก้วิกฤตโควิด พร้อมปฏิรูป "ตำรวจ" ช่วยลดเหลื่อมล้ำ


เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) สถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง "นายกฯ กับงานตำรวจ" กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,675 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 10-15 ม.ค.ที่ผ่านมา เมื่อถามถึงปัญหาสำคัญที่ทำให้ตำรวจและหน่วยงานรัฐอื่นๆ ต้องเร่งแก้ไข พบว่า อันดับแรก หรือร้อยละ 91.8 ระบุว่า ยาเสพติด เช่น เคนมผง ไอซ์ ยาบ้า ผงขาว ระบาดหนักในชุมชน สถาบันการศึกษา และสถานบันเทิง รองลงมาร้อยละ 87.8 ระบุว่า บ่อนพนัน แหล่งแพร่โควิด ทำลายความสุขประชาชนหมดโอกาสช่วงเทศกาลความสุข บั่นทอนเสาหลักของสังคม ต้นตออาชญากรรมอื่นๆ ร้อยละ 87.3 ระบุว่า ขบวนการขนแรงงานผิดกฎหมาย ลักลอบเข้าเมือง ฟอกตัว ต้นตอแพร่โควิด ร้อยละ 86.1 ระบุว่า อาชญากรรมออนไลน์ เช่น ล่วงละเมิดสถาบันหลักของชาติ ล่อลวง คุกคาม พนันออนไลน์ มิจฉาชีพ ร้อยละ 85.3 ระบุว่า ค้ามนุษย์ทั้งที่สมัครใจและไม่สมัครใจ แรงงานบังคับ เป็นต้น เมื่อถามถึงการรับรู้ของประชาชนต่อปัญหาการทำงานของตำรวจช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.0 ระบุว่า มีหลายเรื่องเกิดขึ้นในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ต้องเร่งปฏิรูปตำรวจ เช่น ร่วมกับหน่วยงานรัฐอื่นๆ ช่วยผู้ต้องหาผู้มีฐานะร่ำรวย พ้นผิดคดีขับรถชนตำรวจเสียชีวิต ต้นตอความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรม การแสวงหาผลประโยชน์จากบ่อนพนัน ขบวนการฟอกตัวแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย ยาเสพติด ฯลฯ ต้นตอการแพร่โควิด ทำประชาชนทุกข์ยากเดือดร้อน ขณะที่ ร้อยละ 2.0 ไม่ระบุ

เตือนชาวกรุง!ระวัง"ฝุ่นพิษ"พุ่งสูงเกินค่ามาตรฐาน

เปิดตำนาน "หมานิลตาเพชร" เฝ้าหลวงพ่อวัดจันทร์ เมืองอ่างทอง (คลิป)

"กาละแมร์"ใจป้ำ!ควักเงินล้านกวาดซื้อแบรนด์เนมหรู ส่งความสุขให้ลูกค้ารับปีใหม่


ที่น่าพิจารณาคือ ความคิดเห็นต่อการปฏิรูปตำรวจ ต้นตอและวิธีการแก้ไข พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.9 เคลือบแคลงสงสัยตำรวจซื้อขายตำแหน่ง รับสินบน ทุจริตต่อหน้าที่ ร้อยละ 98.7 ระบุว่า นายกรัฐมนตรี ควรหาผู้นำหน่วยที่พร้อมร่วมมือปฏิรูปตำรวจมาทำงาน ร้อยละ 98.3 ระบุว่า การมีส่วนร่วมของประชาชนในการปฏิรูปตำรวจ ร่วมปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ร้อยละ 95.8 ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จำเป็นต้องถือธงนำปฏิรูปตำรวจ ที่น่าสนใจ คือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.2 เชื่อมั่นต่อ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะสามารถปฏิรูปตำรวจสำเร็จ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ต้นน้ำ เสริมสร้างศรัทธาของประชาชนต่อตำรวจ ขณะที่ร้อยละ 3.8 ระบุว่าไม่เชื่อมั่น นอกจากนี้ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.6 เห็นด้วยที่ช่วงวิกฤตโควิด คือ จังหวะเวลาเหมาะสมของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเร่งปฏิรูปตำรวจ เพื่อยับยั้งปัญหาซ้ำซากในอนาคต


ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า "วิกฤตคือโอกาส" ที่ไม่ใช่โอกาสของตำรวจ แต่เป็นโอกาสของ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่นอกจากมีผลงานทำให้เกิดการรับรู้ (Perception) ในหมู่ประชาชนว่าเคยเข้ามาบริหารประเทศในฐานะนายกรัฐมนตรี และมีผลงานต่างๆ จำนวนมาก แต่ยังเป็นผลงานในระดับการรับรู้ที่นายกรัฐมนตรี น่าจะใช้วิกฤตโควิดวิกฤตสังคมเวลานี้เป็นโอกาส "ปฏิรูปงานตำรวจ" ให้กลายเป็นที่จดจำ (Remarkable) ของการเปลี่ยนแปลงที่ดี ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นที่รักของประชาชน ทำให้เสาหลักของชาติเป็นที่รักของประชาชนจากรุ่นสู่รุ่น มากกว่าผลงานของนายกรัฐมนตรี ในอดีตที่เข้ามาและก็ออกไปโดยมีผลงานที่อยู่ในระดับของการรับรู้และเข้าใจเท่านั้น ดังนั้นวิกฤตนี้คือโอกาสของนายกรัฐมนตรี ที่จะทำให้เกิดความทรงจำที่ดีในหมู่ประชาชน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของกระแสการปฏิรูปตำรวจ เอแบคโพลเคยมีการสำรวจพบมาแล้วในปี พ.ศ.2550 โดยสอบถามกลุ่มเป้าหมายต่างๆ เช่น ประชาชนผู้สัมผัสงานตำรวจระดับสถานีทั่วประเทศ 10 กองบัญชาการ ประชาชนทั่วไป กลุ่มนักวิชาการรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์และกลุ่มข้าราชการตำรวจ พบว่า ส่วนใหญ่หรือกว่าร้อยละ 70 ของประชาชนทั่วไปต้องการให้มีการปฏิรูปงานตำรวจ แต่เวลาผ่านมากว่า 10 ปี ตัวเลขล่าสุดอยู่ที่กว่าร้อยละ 90 ของประชาชนทั่วไปต้องการให้มีการปฏิรูปตำรวจ




ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล ระบุเพิ่มเติมว่า กรณีนี้จึงสะท้อนให้เห็นอะไรบางอย่างที่ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง หรือผู้มีอำนาจรัฐน่าจะนำไปพิจารณาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดี ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นที่รักของประชาชน เกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ต้นน้ำและลดความเคลือบแคลงสงสัยว่าทุจริตต่อหน้าที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐหน่วยอื่นๆ กระทรวงอื่นในหลายจังหวัดของประเทศทั้งเรื่องบ่อนพนัน แรงงานเถื่อน ยาเสพติด แหล่งมั่วสุม จนกลายเป็นต้นตอของการแพร่ระบาดโควิดรอบใหม่ ทำลายความสุขของประชาชนทั้งประเทศช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา ดังนั้นนายกรัฐมนตรี ขู่หรือปรามขบวนการเหล่านี้อย่างเดียวไม่น่าจะเพียงพอเพราะแค่หลบไม่ได้หมดไป นายกรัฐมนตรี จึงน่าจะถือธงนำปฏิรูปตำรวจตามที่ประชาชนไว้วางใจและเชื่อมั่นจากข้อมูลผลสำรวจครั้งนี้