“สัณหพจน์” จี้ 2 กรมเร่งแก้คลื่นเซาะชายฝั่งทรัพย์

2021-01-14 16:35:31

“สัณหพจน์” จี้ 2 กรมเร่งแก้คลื่นเซาะชายฝั่งทรัพย์

Advertisement

“สัณหพจน์” จี้ “กรมเจ้าท่า-กรมโยาธิการและผังเมือง” เร่งแก้คลื่นกัดเซาะชายฝั่งรุนแรง อ.หัวไทร ทำทรัพย์สินประชาชนเสียหายกว่า 50 ครัวเรือน 

เมื่อวันที่ 14 ม.ค. นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ  (พปชร.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ทำให้คลื่นกัดเซาะชายฝั่ง จนทำให้ที่อยู่อาศัยและทรัพย์สินชาวบ้านเสียหาย ว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ หมู่ 5 ต.หน้าสตน และ ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมาช จากเหตุการณ์คลื่นกัดเซาะชายฝั่งทำให้บ้านเรือนและทรัพย์สินเสียหาย ทั้งนี้พบว่า บ้านเรือนของพี่น้องประชานบางส่วนได้ถูกคลื่นกัดเซาะจนพังทลาย รวมทั้งพืชผลทางการเกษตร และทรัพย์สินอื่นๆโดยเบื้องต้นมีสาเหตุมาจากโครงการ การสร้างแนวกันคลื่นป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย และกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ในระหว่างรอยต่อของทั้ง 2 โครงการที่ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ เรื่องดังกล่าวหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบเรื่องดี และร่วมหารือกับชาวบ้านในพื้นที่จนมีข้อสรุปให้ทำแนวป้องกันชั่วคราว โดยจะนำงบประมาณที่เหลือจากโครงการในส่วนที่ไม่จำเป็นมาใช้จำนวนประมาณ 5 ล้านบาท ซึ่งจะเร่งดำเนินการสร้างตั้งแต่ช่วงก่อนปีใหม่ แต่ปรากฏว่าจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้ดำเนินการ จนทำให้พี่น้องประชาชนความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ในครั้งนี้

"นุ๊ก"สุดช้ำ"บ้านเช่า"พังยับ ซุกถุงมือปลอม-มั่วยาเสพติด

ขอโทษศิลปินเจ้าของลิขสิทธิ์ "นนท์ ธนนท์" เสียใจที่นำภาพมาใช้โดยไม่แจ้งก่อน

“ที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบดี ถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน แต่การดำเนินการล่าช้า เมื่อสอบถามไปยังหน่วยงานในพื้นที่ก็พบว่าเพิ่งจะตั้งงบเบิกจ่ายได้ พร้อมกับส่งเจ้าหน้าที่กองช่างของเทศบาลตำบลหน้าสตน ลงมาสำรวจความเสียหายและประมาณการเงินชดเชยเยียวยาให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อนกว่า 50 ครัวเรือน ซึ่งเรื่องดังกล่าวสะท้อนว่า เสียงของชาวบ้านไม่มีใครฟัง เพราะหากมีการดำเนินการตามเวลาที่กำหนดเวลา บ้านเรือนและทรัพย์สินก็จะไม่ได้รับความเสียหาย และรัฐก็จะไม่สิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ” นายสัณหพจน์ กล่าว


สำหรับเรื่อง คลื่นกัดเซาะชายฝั่งนั้น นายสัณหพจน์ กล่าวว่า ตนเคยอภิปรายหารือในสภาผู้แทนราษฎรไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อประมาณ 5 เดือนที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองแต่อย่างใด ซึ่งครั้งนั้นตนขอให้สภาฯ ตั้ง คณะกรรมาธิการเพื่อศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง เนื่องจากในแต่ละปี เฉพาะพื้นที่ทะเลอ่าวไทย เกิดปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรงในทุกปี ปีละ 2 ครั้ง ทำให้ทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนเสียหาย รวมทั้งโครงการสร้างเขื่อนหิน โดยมีหน่วยงานที่รับผิดชอบ 2 หน่วยงาน ต่างออกแบบโครงการที่ต่างกัน เป็นผลกระทบกับวิถีท้องถิ่นของชาวบ้าน ทั้งการประมงพื้นบ้าน และการท่องเที่ยวชุมชน โดยการสร้างเขื่อนหิน ทำให้เรือประมงไม่สามารถเข้ามาจอดเทียบฝั่งได้ และทำให้สูญเสียชายหาดซึ่งเคยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับชุมชน อย่างไรก็ตาม ตนจะติดตามและตรวจสอบการจัดทำโครงการเขื่อนป้องกันการกัดเซาะคลื่นกันเซาะชายฝั่งทั้งหมดอย่างจริงจัง ทราบว่ามีอีก 1โครงการที่กำลังสำรวจความคิดเห็นภาคประชาชน ใน ต.หน้าสตน อ.หัวไทร งบประมาณ 140 ล้านบาท พื้นที่โครงการ 250 เมตร ของกรมโยธาธิการและผังเมือง ทั้งในเรื่องของงบประมาณ การดำเนินการตามสัญญาประชาคม เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการ และเกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง