“พิชัย” เตือนคนออกจาก พท.อย่าป่วน

2021-01-13 10:25:47

“พิชัย” เตือนคนออกจาก พท.อย่าป่วน

Advertisement

“พิชัย” ยัน พท.เข้มแข็ง เตือนคนออกไปอย่าป่วน ตกปลาในบ่อพรรค เชื่อหากมีเลือกตั้งชนะขาด

เมื่อวันที่ 13 ม.ค. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ขอยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยเข้มแข็งและแข็งแกร่ง พรรคเพื่อไทยไม่ได้ปั่นป่วนตามที่มีกระแสข่าวการโจมตีพรรคแต่อย่างใด พรรคมีบุคคลากรที่มีความรู้ความสามารถครบทุกด้าน และมีคนรุ่นใหม่ที่เก่งและฉลาด พรรคมีแนวทางและหลักคิดที่ดี ซึ่งจะเป็นความหวังของประเทศและประชาชนได้อย่างแน่นอน  ทั้งนี้ กระแสความสับสนน่าจะเกิดมาจากการสร้างกระแสของกลุ่มคนที่ออกจากพรรคไปแล้ว แต่พยายามสร้างความปั่นป่วนเพื่อให้พรรคดูสั่นคลอน โดยอยากขอเตือนไปยังผู้ที่ออกจากพรรคไปและพยายามสร้างความปั่นป่วนให้กับพรรค ทั้งที่พรรคได้ให้โอกาส และเคยได้รับการสนับสนุนจากพรรคจึงไต่เต้าขึ้นมาได้ อย่าได้คิดอกตัญญูโดยการให้ร้ายพรรค เพราะจะสะท้อนภาพลักษณ์ที่แย่ไปหากลุ่มคนเหล่านั้นเอง เพราะที่ผ่านมาปัญหาของพรรคเกิดจากภาวะผู้นำและยุทธศาสตร์การบริหารที่ผ่านมาไม่สร้างความหวังให้กับประชาชน ความนิยมของพล.อ.ประยุทธ์ตกต่ำอย่างสุดๆแล้ว แต่กลับไม่สามารถทำตัวเองให้เป็นทางเลือกของประชาชนได้ พรรคจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ดีขึ้น เพื่อให้เป็นความหวังของประชาชนได้ ซึ่งเชื่อว่าด้วยวิสัยทัศน์ที่พรรคได้แสดงออกหลังการเปลี่ยนแปลงการบริหารและจะยังจะมีนโยบายอีกหลายเรื่องตามมา ประชาชนจะมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่

เปลือยชีวิต "ครูมืด" จากเด็กสลัมต่ำต้อย สู่ปรมาจารย์แห่งวัฒนธรรม

“แพท พาวเวอร์แพท” รอฤกษ์บวช หลังโควิด-19

นายพิชัย กล่าวต่อว่า อยากให้ยึดหลักศาสนาพุทธที่ต้องรู้จักกตัญญูรู้คุณและต้องมี หิริโอตัปปะ หรือการละอายและการเกรงกลัวต่อบาป อย่าปากพูดอย่างแต่กลับมีการกระทำอีกอย่าง อย่าทำตัวเป็นก้อนหินถ่วงพรรค ออกไปแล้วก็ควรเอาเศษหินออกไปด้วย พรรคจะได้ขับเคลื่อนต่อไปได้ โดยไม่มีอุปสรรค ถ้าหวังดีกับพรรคจริงก็ควรจะออกไปด้วยกันโดยดี จากกันด้วยดี อย่าคิดจะมาตกปลาในบ่อของพรรค ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าละอายอย่างมาก และขอยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้มีการแตกสาขาไปพรรคอื่นแต่อย่างใด พรรคยังเป็นหนึ่งเดียวไม่มีสาขาและเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ด้วยหลักคิดและแนวทาง ประกอบกับประวัติศาสตร์ของพรรคที่พัฒนาประเทศ และช่วยเหลือประชาชนมาตลอด และมีนโยบายที่ประชาชนสามารถจับต้องได้ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้ง 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน โอทอป SMEs SML  และพรรคจะมีนโยบายที่โดนใจประชาชนต่อเนื่องไปถึงอนาคต เช่น การฟื้นฟูเศรษฐกิจ การเพิ่มรายได้ของประชาชนและของประเทศ ที่เป็นจุดแข็งของพรรค การเปลี่ยนแพลตฟอร์มของประเทศทั้งของราชการและของเอกชน เป็นต้น ประกอบกับภาวะการบริหารประเทศที่ย่ำแย่ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ในปัจจุบัน หากมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ พรรคเพื่อไทยจะชนะอย่างถล่มทลายแน่นอน