แนวโน้มการปรับตัวธุรกิจอสังหาฯ หลังวิกฤตโควิด–19

2021-01-11 12:30:38

แนวโน้มการปรับตัวธุรกิจอสังหาฯ หลังวิกฤตโควิด–19

Advertisement

ในการดำเนินชีวิตในปัจจุบันนั้น มีองค์ประกอบหลายอย่างที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็น อาหาร ยา รวมไปถึงที่พักอาศัย บ้านและคอนโดที่เราอยู่อาศัยรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ที่เราใช้งานอยู่นั้น เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นตัวช่วยในการเยียวยาและบรรเทาความเหนื่อยล้าจากการทำงานในแต่ละวัน ซึ่งในโลกปัจจุบันก็ยังมีกลุ่มคนอยู่เป็นจำนวนมากที่ยังต้องมีการเช่าบ้าน เพื่ออยู่อาศัยและยังไม่มีบ้านที่เป็นของตัวเอง ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องการเพิ่มคนกลุ่มนี้เข้ามาเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก จึงได้มีการเพิ่มกลยุทธ์ในการขายให้การซื้อบ้านสามารถผ่อนชำระได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ทำให้ธุรกิจอสังหารริมทรัพย์เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2561 เป็นต้นมา


เมื่อต้นปี 2563 ที่ผ่านมาได้เกิดการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของเชื้อไวรัส โคโรน่า 2019 ทำให้ธุรกิจหลาย ๆ อย่างมีการชะลอตัวลง รวมถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วยเช่นกัน ซึ่งตลาดอสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ เพราะเป็นธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจอื่น ๆ ค่อนข้างมาก เพราะนอกจากบ้านพักอาศัยแล้ว อาคารพาณิชย์ต่าง ๆ ก็ถือเป็นธุรกิจอสังหา ฯ ด้วยเช่นเดียวกัน ทำให้ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนั้นแผ่ขยายเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว


จากยอดขายอสังหา ฯ ในปี 2563 ที่ผ่านมานั้น ทำให้เห็นว่าธุรกิจอสังหา ฯ มีการหดตัวลงมากถึง 29% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจด้านอสังหาในปี 2564 นี้มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างช้า ๆ และคาดการณ์ว่ายอดขายจะกลับมาสู่สภาวะปกติ(ก่อนช่วงสถานการณ์โควิด)ได้อย่างเร็วที่สุดในปี 2565 โดยคาดการว่ากลุ่มคนระดับกลางหรือนักธุรกิจกลุ่มบนจะเป็นแรงขับเคลื่อนในการฟื้นตัวของตลาด


ในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างของเชื้อไวรัส โควิด – 19 ทำให้เกิดภาวะอุปทานส่วนเกิน หรือความต้องการขายของผู้ประกอบการมากกว่าความต้องการซื้อ ทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคาค่อนข้างรุนแรง นอกจากนี้แล้วยังมีคาดการณ์แนวโน้มความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคว่าอาจจะมีแนวโน้มลดลงตามสภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งหากผู้ประกอบการต้องการที่จะให้ธุรกิจอังสังหา ฯ ของตนเองสามารถเดินหน้าต่อไปได้ อาจจะต้องมีการปรับลดราคาที่อยู่อาศัยให้มีราคาที่ถูกลงเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น


หลังจากผ่านวิกฤตนี้ไป ผู้ประกอบการอาจจะต้องมีการเตรียมพร้อมรับมือกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค เพราะจากสถานการณ์ที่ผ่านมาทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่หันมาสนใจในเรื่องการเตรียมพร้อมรับมือกับวิกฤตและอาจจะหันมาให้ความสำคัญเรื่องการออมเงินมากยิ่งขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อาจจะต้องมีการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อก้าวเข้าสู่ยุค new normal โดยการปรับตัวนั้นสามารถทำได้โดยการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ ที่เน้นเรื่องความคุ้มค่าเป็นหลัก เพื่อให้สอดคล้องกับกำลังซื้อที่ลดลง นอกจากนี้ ควรปรับโครงสร้างให้เหมาะสมกับการ work from home เพราะเมื่อเกิดการ work from home นั้นจะทำให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจในด้านของทำเล ที่ตั้ง และพื้นที่ใช้สอยที่สามารถตอบโจทย์ได้มากกว่า




มาตรการต่าง ๆ ที่กล่าวมานั้น เป็นเพียงการคาดการณ์ของเศรษฐกิจตลาดอสังหา ฯ ที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นหากเราสามารถช่วยกันควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงหรือมีการแพร่ระบาดที่มากขึ้นก็อาจจะทำให้การคาดการณ์ของเศรษฐกิจนั้นมีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน อย่างไรก็ตามทาง https://ofisu.co.th/ ขอส่งกำลังใจให้ทุกคนให้ก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ และขอให้ทุกคนร่วมมือกันสวมหน้ากากอนามัย และหมั่นล้างมืออย่างสม่ำเสมอ เพื่อกำจัดโรคระบาดนี้ให้หมดไปจากประเทศของเรา เพื่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่าง ๆ ภายในประเทศ