สธ. จับมือ รร.แพทย์ดูแลผู้ป่วยโควิด-19

2021-01-08 22:15:20

สธ. จับมือ รร.แพทย์ดูแลผู้ป่วยโควิด-19

Advertisement

สธ. จับมือ รร.แพทย์ดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ตั้งเป้าในเขตที่มีการระบาดให้มี รพ.สนามสำรองอย่างน้อย 1,000 เตียง

เมื่อวันที่ 8  ม.ค. ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข โดยมี นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ และรศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ประธานเครือข่ายโรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์ UHOSNET แถลงข่าวในประเด็น ความร่วมมือกระทรวงสาธารณสุขและโรงเรียนแพทย์ให้การบริหารจัดการดูแลผู้ป่วยโควิด

สธ.แจงคนไทยจากฝั่งเมียนมาเข้าประเทศถูกกฎหมายที่แม่สอด

“พลายขนุน” อาการน่าเป็นห่วงแผลเน่าไม่ยอมยืน

นพ.วีรวุฒิ กล่าวว่า ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิดรอบใหม่ ซึ่งมีผู้ป่วยจำนวนมาก กระทรวงสาธารณสุขได้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ เพื่อลดความแออัดของโรงพยาบาล และลดความเสี่ยงที่จะมีการนำเชื้อโควิด 19 ไปแพร่ให้กับผู้ป่วยโรคอื่นๆ ในโรงพยาบาล ซึ่งการตั้งโรงพยาบาลสนามจะตั้งในจังหวัดหรือพื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก โดยเฉพาะในจุดเริ่มต้นของการระบาดคือจังหวัดสมุทรสาคร และใน 3 จังหวัดในภาคตะวันออก ได้แก่ จ.ชลบุรี ระยอง และจันทบุรี ในขณะเดียวกันได้มีแผนการเตรียมเตียงเพิ่มตลอดเวลา โดยกระทรวงสาธารณสุขมีเป้าหมายว่าในเขตสุขภาพที่มีการแพร่ระบาดจำนวนมากจะให้มีการสำรองเตียงสนามไว้อย่างน้อย 1,000 เตียง และได้มีการเตรียมเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุก เพื่อความปลอดภัยของชุมชน ทั้งนี้โรงพยาบาลสนามแต่ละแห่งเกิดจากความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข ทั้ง กรมการแพทย์ กรมควบคุมโรค กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กรมอนามัย ในการบริหารจัดการพื้นที่ให้ได้ตามมาตรฐาน โดยมีโรงเรียนแพทย์ (UHosNet) ร่วมสนับสนุน รวมถึง กระทรวงกลาโหม ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง เอกชน ประชาชนในพื้นที่ และความพร้อมของแต่ละจังหวัด สถานที่ตั้งต้องห่างชุมชนให้มากที่สุด มีการบริหารจัดการตามมาตรฐาน ทั้ง ระบบสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม การกำจัดขยะติดเชื้อ ระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบความปลอดภัยทางกายภาพ และการรักษาความปลอดภัย ในส่วนการดูแลผู้ป่วยมีการลงทะเบียน และใช้ระบบสื่อสารเพื่อหลีกเลี่ยงการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยเพื่อลดความเสี่ยง และการใช้กล้องวงจรปิดเพื่อดูความปลอดภัย ทันทีที่ผู้ป่วยมีอาการหนักขึ้นจะมีแผนการส่งตัวไปที่โรงพยาบาล

“ขอทำความเข้าใจและขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ที่ตั้งโรงพยาบาลสนามว่า โรงพยาบาลสนามเป็นสถานที่ที่นำผู้ป่วยไม่มีอาการมารวมกัน ไม่ให้ออกไปในสังคมหรือในชุมชนเพื่อควบคุมและสกัดการแพร่เชื้อให้ผู้อื่น ให้มั่นใจว่ามีระบบควบคุม ป้องกันการติดเชื้อที่ดีได้มาตรฐาน มีการควบคุมการติดเชื้อเพื่อป้องกันการระบาดสู่คนและชุมชน” นพ.วีรวุฒิกล่าว


ด้าน รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ประธานเครือข่ายโรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์ UHosNet กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขและโรงเรียนแพทย์ มีความร่วมมือกันมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสถานการณ์โควิด 19 ตั้งแต่เดือน ม.ค.ของปี 2563 มีการแบ่งบทบาทหน้าที่รักษาผู้ป่วย ร่วมวางแผนโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง สร้างห้องไอซียู สนับสนุนห้องปฏิบัติการ เป็นต้น ทำงานส่งเสริมกันจนทำให้สถานการณ์การระบาดในระลอกแรกสามารถควบคุมได้ สำหรับการระบาดระลอกใหม่ได้ยกระดับการทำงานโดยแบ่งพื้นที่จับคู่สถานพยาบาล เพื่อสนับสนุนซึ่งกันและกัน เช่น เขตสุขภาพที่ 4 มีโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ดูแลคู่กับ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ใช้พื้นที่บริเวณหอพักจัดเป็นโรงพยาบาลสนาม, เขตสุขภาพที่ 5 โรงพยาบาลศิริราช ดูแลคู่กับ โรงพยาบาลวชิระพยาบาล และเขตสุขภาพที่ 6 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยดูแลร่วมกับ โรงพยาบาลรามาธิบดี เป็นต้น โดยสนับสนุนทั้งด้านการดูแลผู้ป่วย แลกเปลี่ยนข้อมูลการรักษา ยา เวชภัณฑ์ จัดช่องทางการปรึกษาแพทย์ทางไกล เพื่อการส่งต่อที่เร็วขึ้น ผู้ป่วยปลอดภัยและลดอัตราการเสียชีวิต รวมถึงจัดทีมแพทย์ลงไปหมุนเวียนปฏิบัติหน้าที่เพื่อแบ่งเบาการทำงานของแพทย์และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ซึ่งอาจเกิดความอ่อนล้าจากการปฏิบัติงาน ที่ไม่ได้หยุดพัก ถือเป็นการนำจุดแข็งโรงเรียนแพทย์