รอง ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์เร่งแก้ปัญหาน้ำนมดิบล้นตลาด
เมื่อวันที่ 8 ม.ค. นายชาตรี จันทร์วีระชัย รอง ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยถึงการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ภายหลังได้รับหนังสือเรียกร้องให้จังหวัดช่วยเหลือปัญหาน้ำนมดิบที่ล้นตลาด และได้ประชุมร่วมกับ ตัวแทน สหกรณ์โคนมภาคใต้-และภาคตะวันตก สหกรณ์โคนมภาคใต้-และภาคตะวันตก สหกรณ์โคนมไทยเดนมาร์คในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์-เพชรบุรี เกษตรและสหกรณ์จังหวัด สพฐ. ท้องถิ่นจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด ที่ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัด
"หมอแม่สอด"อยากร้องไห้ จังหวัดรับ 40 คนไทยจากเมียนมาพบติดเชื้อโควิด 17 ราย
"หมอมนูญ"กังขาห้างสรรพสินค้าเป็นสถานที่ปิดเสี่ยงแพร่โควิดเปิดได้ตามปกติ
นายชาตรี กล่าวว่า ได้สั่งการด่วนให้หน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของกลุ่มเกษตรกร ทำให้ทราบว่าขณะนี้มีน้ำนมดิบเกินความต้องการอยู่วันละ 35-40 ตันและไม่มีทางระบายออกไป เนื่องจากในช่วงนี้กระทรวงศึกษาธิการสั่งปิดโรงเรียนทั้งหมด ทำให้นมพาสเจอร์ไรส์ไม่มีที่ส่ง รวมแล้วถึง 74,350 ถุง ซึ่งเป็นนมที่ผลิตเสร็จเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 64 แต่มีการประกาศปิดศึกษาในวันที่ 4 ม.ค. 64 กะทันหัน ทำให้นมจำนวนนี้ไม่สามารถระบายออกไปได้ เนื่องจากเป็นนมโรงเรียนเพื่อโครงการอาหารเสริมเท่านั้น และนมที่อยู่ในถุงเหล่านี้มีระยะเวลาเพียง 10 วันเท่านั้นที่จะดื่มได้ตามมาตรฐาน อย.จากนั้นก็จะต้องนำไปทำลายทิ้งต่อไป นอกจากนั้นแล้วยังพบว่าข้อมูลของสหกรณ์โคนมไทยเดนมาร์ค อ่าวน้อย จำกัด มีนมโรงเรียนค้างสต๊อกอีก 14,000 ถุง สหกรณ์โคนมไทยเดนมาร์ค ห้วยสัตว์ใหญ่ จำกัด มีนมโรงเรียนค้างสต๊อก 171,625 ถุง และสหกรณ์โคนม ชะอำ-ห้วยทราย จำกัด มีนมโรงเรียนค้างสต๊อก 200,000 ถุง รวมทั้งหมด 459,975 ถุง หากปล่อยปัญหาไว้ต่อไปและทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่เข้ามาแก้ไขก็จะส่งผลกระทบทำให้สหกรณ์โคนมฯในพื้นที่ประจวบคีรีขันธ์ -เพชรบุรี ไม่สามารถรับน้ำนมดิบเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมได้ ก็จะกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมตามมา
“ขณะนี้ทางสหกรณ์โคนมฯแต่ละแห่งพยายามรับน้ำนมดิบจากเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม แต่ในแต่ละวันมีน้ำนมดิบที่เกินอยู่ 35-40 ตัน/วัน ก็ต้องทยอยทิ้งไป อีกทั้งโรงงานที่ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ นมโรงเรียนก็หยุดการผลิตแล้วเพราะมีสต๊อกค้างเป็นจำนวนมากรอวันหมดอายุและนำไปทำลายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า คิดเป็นมูลค่าความเสียหายนมโรงเรียนค้างสต๊อก 459,975 ถุง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 3,026,635 บาท หลังจังหวัดรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ และจะเสนอให้หน่วยเหนือที่เกี่ยวข้องรับทราบอย่างเป็นทางการ คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเร่งแก้ไขปัญหา เบื้องต้นที่พูดคุยกัน คือให้ อสค.ช่วยรับซื้อไปทำนม UHT. หรือโรงงานอื่น เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้นมมีที่ส่ง ส่วนในระยะยาวให้สหกรณ์ต่างๆ พยายามผลิตนมเป็นนม UHT และผลิตภัณฑ์นมอื่นๆเพื่อให้มีเวลาที่จะหาตลาดได้ในระยะยาว” นายชาตรี กล่าว
นายสังวาลย์ โพธิ์มี ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์โคนมภาคใต้และภาคตะวันตก กล่าวว่า สำหรับข้อเรียกร้องของสหกรณ์โคนมไทยเดนมาร์ค ประจวบฯ-เพชรบุรี ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานจัดซื้อผลิตภัณฑ์นมโรงเรียน ยู.เอช.ที.แทนผลิตภัณฑ์นมโรงเรียนพาสเจอไรส์ เพื่อให้เด็กนักเรียนดื่มนมอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นการระบายผลิตภัณฑ์นมโรงเรียน ยู.เอช.ที.ของผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นม ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมสามารถช่วยเหลือรับซื้อน้ำนมดิบของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมต่อไปได้ในช่วงที่มีมาตรการให้โรงเรียนปิดเรียนและมีแนวโน้มที่จะขยายพื้นที่เพิ่มมากขึ้น ขอให้รัฐบาลจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงการจัดซื้อผลิตภัณฑ์นมโรงเรียน ยู.เอช.ที.แทนผลิตภัณฑ์นมโรงเรียนพาสเจอร์ไรส์ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานจัดซื้อ หรือผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมโรงเรียนในโครงการอาหารเสริมนมโรงเรียน ขอให้มีมาตรการเป็นการเร่งด่วน เพื่อระบายผลิตภัณฑ์นมโรงเรียนชนิด ยู.เอช.ที.คงเหลือจากผลกระทบวิกฤตโควิด-19 (รอบแรก) ของผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมที่ช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม โดยการนำไปผลิตเป็นนมโรงเรียนชนิด ยู.เอช.ที.เอาไว้ทั้งหมด เนื่องจากขณะนี้ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมมีสต๊อกคงเหลือจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถรับน้ำนมดิบเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมได้