องค์การอนามัยโลก เตือนตรวจพบไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ ระบาดหนักหน่วงในยุโรป 22 ประเทศ และมีแนวโน้มว่าจะเข้ามาแทนที่โควิดสายพันธุ์เดิม แต่ก็ยืนยันว่า วัคซีนต้านโควิดที่ใช้อยู่ในขณะนี้ ใช้ได้ผลกับไวรัสกลายพันธุ์ที่พบ
นายแพทย์ฮานส์ ครูก ผู้อำนวยการภาคพื้นยุโรปขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO เตือนไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ ที่ติดต่อและระบาดง่ายขึ้น ซึ่งตรวจพบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร เป็นภัยคุกคามอย่างหนักหน่วงรุนแรงในทวีปยุโรป แม้ว่าจะมีการแจกจ่ายและฉีดวัคซีนให้ประชาชนไปบ้างแล้วก็ตาม โดยระหว่างแถลงข่าวทางออนไลน์ในกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์กในวันพฤหัสบดี นายแพทย์ครูก กล่าวว่า ไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่า “บี117” (B117) ปัจจุบันนี้ มีการยืนยันว่าพบการระบาดอยู่ในยุโรปถึง 22 ประเทศ
ครูก กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ พวกเราเข้าใจแล้วว่า ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญต่อโรคที่เกิดจากไวรัสตัวนี้ ซึ่งหมายความว่า โควิด-19 ไม่ได้มีอันตรายมากขึ้นหรือน้อยลงกว่าเดิม มันระบาดไปในประชาชนทุกช่วงอายุ แต่เด็กไม่ปรากฏเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง
เขาย้ำว่า หากประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคไม่ดำเนินการเพื่อชะลอการระบาดของไวรัสกลายพันธุ์ จะยิ่งส่งผลกระทบมากขึ้นต่อระบบสาธารณสุขที่ตกอยู่ในภาวะบีบคั้นอยู่แล้ว เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่และไวรัสกลายพันธุ์ในอนาคต องค์การอนามัยโลกขอเรียกร้องให้รัฐบาลต่าง ๆ ในภูมิภาค ร่วมมือกันและสอบสวนการระบาดอย่างรวดเร็วผิดปกติ, เพิ่มการตรวจคัดกรองอย่างต่อเนื่อง และแบ่งปันข้อมูล
ครูก กล่าวด้วยว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่เต็มไปด้วยโอกาสและความหวังในการนำวัคซีนโควิดมาใช้เพื่อควบคุมการระบาด แต่ก็เกิดความท้าทายใหม่ ๆ จากไวรัสโควิดที่กลายพันธุ์ ซึ่งดูเหมือนจะระบาดได้ง่ายและเร็วกว่าเดิม แม้ไม่ได้ทำให้ผู้ติดเชื้อมีอาการรุนแรงมากหรือน้อยลง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า เมื่อเวลาผ่านไป ไวรัสที่กลายพันธุ์นี้จะกลายเป็นสายพันธุ์หลักที่มาแทนสายพันธุ์เดิม เหมือนที่เกิดขึ้นในอังกฤษและเดนมาร์ก
จนถึงขณะนี้มีผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสสะสมทั่วยุโรปแล้วมากกว่า 26 ล้านคน เสียชีวิตแล้วกว่า 580,000 คน โดยอัตราการระบาดยังคงอยู่ในระดับรุนแรงที่สุด ส่งผลให้ประเทศและดินแดนต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้ต้องนำมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดมาใช้ กระทบต่อวิถีชีวิตของผู้คนมากกว่า 230 ล้านคน
ส่วนแคเธอรีน สมอลล์วู้ด เจ้าหน้าที่ระดับสูงภาคพื้นยุโรปของ WHO อีกคน ชี้ว่า มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า วัคซีนที่กำลังใช้อยู่ในหลายประเทศอาจใช้ได้ผลกับโคโรนาไวรัสที่กลายพันธุ์นี้ แต่จำเป็นต้องมีการศึกษาวิจัยต่อไปถึงประสิทธิภาพของวัคซีนดังกล่าวต่อไวรัสที่กลายพันธุ์ แต่ก็เน้นย้ำว่า วัคซีนโควิด-19 จะยังไม่สามารถประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดในระยะสั้นได้ ดังนั้นประชาชนยังจำเป็นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ซึ่งรวมถึงการสวมหน้ากากและเว้นระยะห่างทางสังคม
จนถึงวันที่ 6 มกราคม ในกลุ่มประเทศและดินแดนทั้งหมดในยุโรป เกือบครึ่งหนึ่งรายงานอัตราการติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ย 7 วัน อยู่ที่กว่า 150 คนต่อประชากร 100,000 คน ซึ่งกว่า 1 ใน 4 ของประเทศสมาชิกและดินแดนของยุโรปทั้งหมด พบว่ามีอัตราการติดเชื้อสูง และระบบสาธารณสุขอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด