เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายขึ้นที่อาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตัน สหรัฐ เมื่อม็อบที่สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจากนั้นก็บุกจู่โจมอาคารรัฐสภา ซึ่งสมาชิกรัฐสภากำลังจัดการประชุมเพื่อรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในช่วงเช้าวันพุธ โดยกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ จัดการชุมนุมประท้วงเพื่อกดดันให้รัฐสภาสหรัฐ ยกเลิกการยอมรับชัยชนะของไบเดน ซึ่งไม่ต่างจากความพยายามก่อรัฐประหาร หรือก่อการจลาจล
บริเวณด้านนอกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ สมาชิกกลุ่มแนวคิดขวาสุดโต่งส่วนหนึ่งสวมชุดหุ้มเกราะปะปนอยู่ในฝูงชน ซึ่งบางคนมีอาวุธปืนด้วย เดินขบวนผ่านรัฐสภา มีรายงานว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งถูกหญิงภายในอาคารด้วย ซึ่งยังไม่ทราบว่า เธอบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ ขณะที่บรรดาผู้สนับสนุนต่างตะโกนคำขวัญยกย่องประธานาธิบดีทรัมป์ว่า “เราต้องการทรัมป์” และด่าทอนายไบเดน และเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
หลังเกิดเหตุจลาจลแล้ว ประธานาธิบดีทรัมป์ก็ออกมาเรียกร้องสันติภาพในวันพุธและบอกกลุ่มผู้ประท้วงให้กลับบ้านหลังผู้ประท้วงหลายร้อยคนบุกอาคารรัฐสภา เพื่อบีบให้รัฐสภายกเลิกผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่เกิดขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว ซึ่งเขาพ่ายแพ้ให้แก่นายโจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต โดยทรัมป์ ซึ่งระบุในคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ทางทวิตเตอร์ ย้ำข้อกล่าวอ้างที่ไร้หลักฐานสนับสนุนของเขาว่า มีการโกงการเลือกตั้ง แต่ก็กล่าวว่า คุณต้องกลับบ้านไปในตอนนี้ พวกเราต้องใช้สันติวิธี เราต้องมีกฎหมายและความสงบเรียบร้อย
ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมบริเวณอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ พร้อมสั่งอพยพผู้คนออกจากอาคารสำนักงานต่าง ๆ ในบริเวณนั้่น ในขณะที่ผู้ประท้วงจำนวนมากมุ่งหน้าไปยังอาคารรัฐสภาที่สมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันกำลังประชุมเพื่อรับรองชัยชนะของนายไบเดน ก่อนที่จะบุกจู่โจมเข้ารัฐสภา ตำรวจพยายามอารักขาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาออกไปจากอาคารรัฐสภาโดยขอให้บรรดานักการเมืองเหล่านั้นสวมหน้ากากป้องกันแก๊สน้ำตาไว้ด้วย ขณะที่เจ้าหน้าที่ด้านหน้าสอาคารรัฐสภาต่างเตรียมอาวุธพร้อมหลังจากที่มีผู้พยายามบุกรุกเข้าไปด้านในอาคาร
ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นนี้มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ได้ออกมากล่าวปราศรัยต่อผู้สนับสนุนหลายพันคนใกล้ทำเนียบขาวในวันพุธ โดยเน้นย้ำว่าตนจะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้และกล่าวหาว่าตนถูกขโมยผลการเลือกตั้ง แม้คณะผู้เลือกตั้งได้ลงคะแนนเสียงยอมรับว่านายไบเดนคือผู้ชนะการเลือกตั้งและจะขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนใหม่แล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนการรับรองชัยชนะของนายไบเดนในรัฐสภาสหรัฐฯ จะยังยืดเยื้อออกไปอีกหลายชั่วโมง เมื่อนักการเมืองรีพับลิกันหลายคนยังคงพยายามคัดค้านและถ่วงเวลาการลงมติรับรอง ทำให้รัฐสภาจะเริ่มประชุมร่วมอีกในคืนวันพุธตามเวลาในสหรัฐ เพื่อรับรองชัยชนะของนายไบเดน หลังผู้ก่อเหตุจลาจลที่สนับสนุนทรัมป์ บุกเข้าอาคารรัฐสภาในช่วงเช้า ส่งผลให้กระบวนการรับรองชัยชนะของไบเดน ถูกระงับไป เมื่อเริ่มเกิดความวุ่นวาย ขณะเดียวกัน สมาชิกพรรครีพับลิกันทั้ง 2 สภา ก็มีแผนการคัดค้านการนับคะแนนและเลื่อนการรับรองชัยชนะของไบเดน ซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ด้านนายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน มูเรียล บาวเซอร์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงวอชิงตัน เริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่น
ส่วนว่าที่ประธานาธิบดีไบเดน ซึ่งมีกำหนดจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม เรียกร้องให้ประธานาธิบดีทรัมป์ ออกทีวีถ่ายทอดทั่วประเทศ ประณามกลุ่มผู้สนับสนุนของเขาที่บุกรุกจู่โจมอาคารรัฐสภา และกล่าวว่า การกระทำของผู้ประท้วง “เกิดจากการปลุกระดม” อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวด้วยว่า สำหรับกลุ่มผู้ประท้วงที่บุกจู่โจมอาคารรัฐสภา, ทุบทำลายหน้าต่าง, ยึดอาคารสำนักงานต่าง ๆ, บุกคุกห้องประชุมรัฐสภาและเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของตัวแทนประชาชนที่ได้รับเลือกตั้งมาปฏิบัติหน้าที่ นี่ไม่ใช่เป็นการประท้วง แต่เป็นการก่อเหตุจลาจล
ไบเดน เรียกร้องให้ม็อบถอนตัวและอนุญาตให้ภารกิจของประชาธิปไตยเดินหน้าต่อไป ส่วนเจ้าหน้าที่จัดการเลือกตั้งของทั้งพรรคเดโมแครต และรีพับลิกัน และกลุ่มผู้สังเกตการณ์อิสระ ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่มีการโกงที่มีนัยสำคัญในการเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายน ซึ่งไบเดนชนะได้คะแนนเสียงจากประชาชนทั่วประเทมากกว่า 7 ล้านคะแนน
ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตั้งแต่รัฐเสร็จสิ้นการรับรองว่า นายไบเดน จากพรรคเดโมแครด ชนะการเลือกตั้ง ได้คะแนนของคณะผู้เลือกตั้ง 306 คะแนน ส่วนทรัมป์ได้เพียง 232 คน ส่วนทรัมป์ก็ท้าทายชัยชะของไบเดน แต่ก็ถูกศาลทั่วประเทศปฏิเสธ