พ่อเมืองตรังหิ้วกระเช้าเยี่ยม ผู้บริสุทธิ์เหยื่อคมกระสุนตำรวจ สภ.ห้วยยอดยิงผิดคัน ผู้ว่าฯ ชี้ตำรวจไม่รอบคอบอย่างหนัก ย้ำนำเหตุการณ์นี้ไปเป็นบทเรียน ขณะที่สาวเหยื่อคมกระสุนลั่นตำรวจทำงานสะเพร่า แต่ขอไม่เอาความ เหตุตำรวจดูแลดี ถือว่าฟาดเคราะห์
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยยอด ปฏิบัติการได้ตั้งจุดสกัดคนร้ายก่อเหตุยิง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ใหญ่บ้าน ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย จากพื้นที่กระบี่ และมีการหลบหนีเข้ามาพื้นที่ จ.ตรัง แต่ทำให้ตำรวจ สภ.ห้วยยอด ไล่สกัดรถเป้าหมายผิดคัน ซึ่งเป็นรถของชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 1 ราย เพราะเห็นว่ายี่ห้อ และสีรถตรงกันเพียงเท่านั้น เหตุเกิดบ่ายวันที่ 4 ม.ค.64 ที่ผ่านมา
ต่อมา เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6 ม.ค.64 นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผวจ.ตรัง พร้อมด้วย นายณัฐวุฒิ สังข์สุข ป้องกันจังหวัดตรัง นายสำคัญ อรทัย นายอำเภอห้วยยอด โดยมี นพ.ปิยวิทย์ เนกขพัฒน์ ผอ.รพ.ห้วยยอด เดินทางเยี่ยม และมอบกระเช้าให้กับนางสาวหนึ่งฤทัย วงศ์ประเสริฐ ผู้ป่วยที่ประสบเหตุถูกยิง หลังจากเจ้าหน้ายิงสกัดรถผิดคัน มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยมีแพทย์พญาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด มีนางสุรางค์ ใจดี อายุ 56 ปี และน้องๆคอยดูแล เฝ้าอาการ ต่อมามาที่ สภ.ห้วยยอด ทางนายขจรศักดิ์ ได้เดินทางเพื่อตรวจดูความเสียหาย ของรถเก๋งที่ถูกยิง อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาประมาณ 15.00 น.ของวันนี้เจ้าหน้าที่จะนำรถผู้เสียหายไปซ่อมแซม
นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผวจ.ตรัง กล่าวว่า ในการเข้าจับกุมหรือสกัดตรวจจับ จะต้องมีความรอบคอบ และต้องมีการเช็คข้อมูลให้ชัดเจนให้ละเอียดมากกว่านี้ ซึ่งที่ผ่านมาอาจจะขาดการประสานงานหรือความละเอียดที่จะจับกุมก่อน ตอนนี้อยู่ที่ผู้เสียหาย หากผู้เสียหายต้องการที่จะแจ้งความดำเนินคดี หรือว่าจะฟ้องศาลก็เป็นสิทธิของผู้เสียหายที่จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ก็สามารถดำเนินการได้ทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง เพราะว่าอาจจะเป็นการกระทำที่ประมาทแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องมีการสืบสวนว่าสถานการณ์จริงๆ หรือข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งจะต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย คดีที่เกิดขึ้นนี้เจ้าหน้าที่จะต้องละเอียดรอบคอบมากกว่านี้ สิ่งสำคัญคือสำคัญคือข้อมูลของคนร้ายจะต้องชัดเจน คนร้ายอาจจะมีอาวุธปืนสงครามอยู่ก็จริง แต่ข้อมูล ป้ายทะเบียน จะต้องชัดเจน ไม่ใช่แค่สีหรือยี่ห้อแค่นั้น
ด้าน น.ส.หนึ่งฤทัย อาชีพเสมียนแพปลาแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า อาการตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจก็รับผิดชอบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นคนป่วย หรือรถยนต์ที่พังเสียหาย ความรู้สึกตกใจมากไม่เคยเจอแบบนี้เหมือนในหนังในละครเลย ตอนนั้นก็ไม่คิดอะไรเพราะช็อก ส่วนตัวก็โกธรตำรวจมาก เพราะ เราไม่ได้มีความผิดอะไร ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย และช่วงจังหวะที่มาทำกับแฟนเรารุนแรงแบบนั้น ก็โกธรมาก แต่ทางตำรวจก็เข้ามาขอโทษ ก็ยอมรับผิดทุกอย่างยอมชดใช้ให้ทุกอย่าง ทางเราก็รู้สึกดีขึ้น ส่วนการทำงานของตำรวจขอบอกตรงๆว่าสะเพร่ามาก เพราะว่าป้ายทะเบียนกับรุ่นรถก็คนละเรื่องกัน และน่าจะฟังคำพูดของเราบ้างในตอนนั้น
ตอนนี้ก็จะไม่เอาเรื่องกับทางตำรวจแล้ว เพราะเขายินยอมชดใช้ให้เราทุกอย่าง ก็ถือว่าฟาดเคราะห์ไป ไม่ต้องคิดอะไรมาก เราก็ปลอดภัยแล้ว ในตอนนี้ก็ไม่มีเรื่องคาใจอะไรแล้ว ตำรวจก็เต็มที่กับเรามาก ขวัญกำลังใจก็ดีขึ้น แค่กลับมาเดินได้ก็ดีมากแล้ววันนี้ผู้ว่าฯ มาเยี่ยมก็ดีใจส่วนแฟนก็กลับไปทำงานตามเดิม ส่วนการพักรักษาตัวตนเองก็จะต้องอยู่จนกว่าจะหายเป็นปกติดี