สหราชอาณาจักร ทำสถิติใหม่ติดเชื้อไวรัสโควิดสูงสุดวันอังคารวันเดียว กว่า 60,000 ราย เป็นครั้งแรกตั้งแต่ไวรัสเริ่มระบาดเมื่อหนึ่งปีก่อน แต่ประชาชนก็ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 1.3 ล้านคน
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำอังกฤษ แถลงในวันอังคารว่า ประชาชนในสหราชอาณาจักรกว่า 1.3 ล้านคน ได้รับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 แล้ว ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 80 ปีขึ้นไปถึง 650,000 คน โดยนายจอห์นสัน กล่าวระหว่างการแถลงข่าวว่า ข้อมูลล่าสุดพบว่า ขณะนี้ มีประชากร 2 เปอร์เซ็นต์ หรือมากกว่า 1 ล้านคนในอังกฤษ ติดเชื้อไวรัสโควิด
ผู้นำอังกฤษ ประกาศล็อกดาวน์ครั้งใหม่เพื่อสกัดการระบาดของไวรัสโควิดในวันจันทร์ที่ 4 มกราคม โดยระบุว่า ไวรัสโควิดกลายพันธุ์ที่พบระบาดครั้งแรกในอังกฤษ กำลังระบาดอย่างเร็วมาก เสี่ยงที่จะเกินขีดความสามารถของสำนักงานบริการสาธารณสุขแห่งชาติ หรือเอ็นเอชเอส ในการรับมือกับผู้ป่วยที่จะเพิ่มมากขึ้นภายใน 21 วันนี้
ขณะเดียวกัน สหราชอาณาจักรติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายวันทำสถิติสูงสุดมากกว่า 60,000 รายในวันอังคาร เป็นครั้งแรกตั้งแต่ไวรัสโควิดเริ่มการระบาด จากข้อมูลล่าสุดของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ซึ่งข่าวนี้ เป็นสิ่งย้ำเตือนอีกครั้งถึงความอันตรายของวิกฤตไวรัส ขณะที่อังกฤษและสกอตแลนด์ เริ่มล็อกดาวน์ครั้งใหม่ โดยประชาชนต้องอยู่ภายใต้คำสั่ง stay-at-home พักอยู่ที่บ้าน
ผู้ติดเชื้อโควิดในวันอังคารอยู่ที่ประมาณ 60,916 ราย สูงกว่า 58,784 รายในวันจันทร์ เท่ากับผู้ติดเชื้อสูงกว่า 50,000 รายติดต่อกันเป็นวันที่ 8 แล้ว รวมทั่วประเทศ อยู่ที่มากกว่า 2.7 ล้านราย ส่วนผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มอีก 830 รายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา รวมตัวเลขผู้เสียชีวิตสะสม อยู่ที่ 76,423 ราย
รัฐบาลสหราชอาณาจักรพยายามอย่างหนักในการจัดการกับการระบาดรอบใหม่ของไวรัสโควิดกลายพันธุ์ ที่ติดต่อกันง่ายขึ้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอังกฤษ กล่าวในวันอังคารว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กำลังเพิ่มความวิตกกังวลอย่างมาก และจะยังเพิ่มแรงกดดันมากขึ้นต่อสำนักงานบริการสาธารณสุขแห่งชาติของประเทศด้วย ทุกคนต้องพักอยู่ที่บ้าน, ลดการติดต่อและทำทุกอย่างเท่าที่เป็นไปได้ ในการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด
ทั้งนี้ สถิติติดเชื้อรายวันสูงสุดมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ประกาศมาตรการล็อกดาวน์ประเทศครั้งใหม่ในอังกฤษ เพื่อจัดการกับการติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรีนิโกลา สเตอร์เจียน ของสกอตแลนด์ ประกาศในวันจันทร์ว่า สกอตแลนด์จะเข้าสู่ล็อกดาวน์จากเที่ยงคืน ขณะที่เวลส์และไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร ก็เริ่มล็อกดาวน์ตั้งแต่เดือนธันวาคม
คริส วิตตี ประธานเจ้าหน้าที่แพทย์ของรัฐบาลอังกฤษ แถลงในวันอังคารว่า มีชาวอังกฤษ 1 ใน 50 คนทั่วประเทศ ติดเชื้อไวรัสโควิด พร้อมทั้งระบุว่า เป็นตัวเลขที่สูงมากอย่างแท้จริง อัตราการติดเชื้อโควิด-19 ทั่วสหราชอาณาจักร เพิ่มขึ้น 70 เปอร์เซ็นต์ ในช่วง 2 สัปดาห์ถึงวันที่ 30 ธันวาคม
ข้อมูลของรัฐบาล พบว่าอัตราการติดเชื้อเพิ่มสูงจาก 287 คน ต่อประชากร 100,000 คน ในวันที่ 16 ธันวาคม เป็น 487 คนต่อ 100,000 คน ในวันที่ 30 ธันวาคม เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยการติดเชื้อ 7 วัน
วิตตี กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันนี้ มีผู้ป่วยโควิดรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทั่วสหราชอาณาจักร สูงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันขณะนี้ ต่ำกว่าช่วงระบาดสูงสุดในเดือนเมษายน 2563 แต่ก็อาจเปลี่ยนแปลงได้ เพราะขณะนี้ มีผู้ป่วยโควิดเพิ่มสูงขึ้น