"ทิพานัน"ซัดวิสัยทัศน์ "ธนาธร"ก้าวตามหลังสิ่งที่นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลทำไปหมดแล้ว ย้อนแสบปมแจกเงินพูดเองลืมเอง
เมื่อวันที่ 5 ม.ค. น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า จัดรายการเฟซบุ๊กไลฟ์พิเศษ ในหัวข้อ "ประเทศไทย 2021: ข้อเสนอจัดการโควิดและวิกฤติเศรษฐกิจ" ว่า วิสัยทัศน์ของประธานคณะก้าวหน้าเป็นแค่เพียงความคิดเห็นที่ถดถอยและก้าวตามหลังสิ่งที่นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลได้ลงมือทำไปหมดแล้ว และที่ไม่ทำแสดงว่าคณะกรรมการประเมินแล้วว่าผลเสียเยอะกว่า นายธนาธรควรตื่นจากฝัน และไม่ควรหลงเชื่อสคริปต์ที่คนอื่นเตรียมให้หรือเฟกนิวส์ต่างๆ ที่แชร์กันตามสื่อโซเชียลเพราะทำให้ประชาชนขบขันจนอาจตั้งฉายาว่านายกโซเชียลได้
น.ส. ทิพานัน กล่าวว่า สิ่งที่นายธนาธรได้เสนอให้รัฐใช้มาตรการโดยคำนึงถึง 2 หลักการ คือ หลักความได้สัดส่วนและหลักความเป็นธรรมและเสมอภาคนั้น เป็นเพียงหลักการพื้นฐานของ "กฎหมายปกครอง" และ "การบริหารรัฐ" ซึ่งทุกมาตรการที่รัฐใช้อยู่ในการป้องกันการแพร่ระบาดและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเป็นไปตามหลักการดังกล่าวอยู่แล้ว อีกทั้งข้อเสนอของนายธนาธรยังขัดกันเอง ไม่เป็นไปตามหลักการที่นายธนาธรเสนอมา เหมือนคนมีปัญหาเรื่องความจำ จำสิ่งที่ตนเองพูดไม่ได้ บอกว่าค่าชดเชยเพียงวันละ 100 บาทไม่เพียงพอ ไม่ได้สัดส่วน แต่ไม่เกิน 30 นาทีก็กลับเสนอเองว่าให้เยียวยาถ้วนหน้า แจกคนละ 3,000 บาทต่อเดือน ซึ่งก็เฉลี่ยวันละ 100 บาทนั่นเอง ข้อเสนอเดือนละ 3,000 บาทจึงขัดกับหลักความได้สัดส่วน และหากใช้วงเงิน 4 แสนล้านบาทตามที่นายธนาธรเสนอให้แจกคนละ 9,000 บาท (แจก 3,000 บาท 3 เดือน) ก็จะสามารถแจกได้เพียง 44.4 ล้านคน ไม่พอกับจำนวนประชากรทั้งหมดของไทย จึงไม่ใช่การแจกถ้วนหน้า ดังนั้นจึงเป็นข้อเสนอที่ขัดกับหลักความเป็นธรรมและเสมอภาค
"สำหรับข้อมูลเรื่องวัคซีนนั้น นายธนาธรอธิบายและวิจารณ์จากข้อมูลที่ผิดพลาดทั้งสิ้น ทำให้ทราบเลยว่านายธนาธรไม่ได้ฟังและศึกษามาอย่างจริงจังจากแหล่งข้อมูลที่ถูกต้องเชื่อถือได้ นายธนาธรรู้หรือไม่ว่ามีกฎหมาย คือ พ.ร.บ. ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ.2561 ประกาศใช้แล้วตั้งแต่ 21 พ.ย. 61 และการดำเนินการจัดสรรวัคซีนของรัฐบาลก็ต้องเป็นไปตามนิยาม “ความมั่นคงด้านวัคซีน” ในมาตรา 3 ที่ว่าการเข้าถึงวัคซีนอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม การดำเนินการให้มีปริมาณวัคซีนเพียงพอต่อความต้องการ มีคุณภาพ มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เพื่อการมีสุขภาพที่ดีของประชาชน ทั้งในสถานการณ์ปกติและในสถานการณ์ฉุกเฉิน" ดังนั้นนายธนาธร ควรไปศึกษา เรียนรู้มาใหม่ อย่ามาแบบจับแพะชนแกะให้ข้อมูลเพื่อการพัฒนาประเทศในสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้ น.ส. ทิพานัน กล่าว
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า นอกจากนี้ข้อมูลวัคซีนที่ถูกต้องตามที่ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์, นพ.นคร เปรมศรี ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ และดร.ทรงพล ดีจงกิจ กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามไบโซเอนซ์ จำกัด ได้แถลงข่าวความคืบหน้าการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 เมื่อบ่ายวันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมา คือ วัคซีนทั้งหมดที่จะสั่งซื้อนำเข้ามาคือ ร้อยละ 80 ของจำนวนประชากร (ประมาณ 105 ล้านโดส) โดยในส่วน 70 ล้านโดส (ร้อยละ 50) เป็นการจองซื้อวัคซีนล่วงหน้าจำนวน 26 ล้านโดสกับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งใช้เทคโนโลยีของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดและถ่ายทอดกระบวนการผลิตให้กับบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ ที่จะมีกำลังผลิตประมาณ 200 ล้านโดสต่อปีหรือเดือนละ15- 20 ล้านโดส ซึ่งคาดว่าจะเริ่มทยอยส่งมอบได้ภายในปลายเดือนพฤษภาคมนี้ และอีกประมาณ 35 ล้านโดส (ร้อยละ 30) อยู่ระหว่างการเจรจากับ COVAX Facility และบริษัทผลิตวัคซีนอื่นๆ นอกจากนี้เพื่อให้ได้วัคซีนเร็วที่สุด ทันต่อสถานการณ์ รัฐบาลยังได้มีการนำเข้าวัคซีนจากบริษัทซิโนแวค ประเทศจีน 2 ล้านโดส โดยจะได้รับปลายเดือนกุมภาพันธ์ประมาณ 200,000 โดส ปลายเดือนมีนาคม 800,000 โดส และปลายเดือนเมษายนอีก 1 ล้านโดส สำหรับส่วนที่เหลือจะอยู่ในการจัดสรรจากกำลังการผลิตของประเทศไทยเองเพื่อให้เพียงพอกับประชากรไทยทุกคน ซึ่งจะเห็นว่ารัฐบาลมีการวางแผนให้ประเทศเกิดความมั่นคงด้านวัคซีน และดำเนินการให้เกิดความมั่นใจว่าให้คนไทยได้วัคซีนเร็ว มีคุณภาพ และปลอดภัย รวมไปถึงทุกคนต้องมีโอกาสเข้าถึงวัคซีนได้อย่างเท่าเทียม
"สิ่งที่สังคมต้องการจากนายธนาธรไม่ใช่การวิพากษ์วิจารณ์หรือข้อเสนอที่ซ้ำซ้อนกับสิ่งที่รัฐบาลได้ทำมาแล้วและได้กำลังดำเนินการอยู่ แต่สังคมต้องการให้นายธนาธรปฏิรูปความโปร่งใส ความสุจริต ของตัวนายธนาธรและบุคคลในครอบครัว" น.ส. ทิพานัน กล่าว