ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ เฉพาะเดือนธันวาคม ถือว่าเลวร้ายที่สุด เกือบ 78,000 รายในเดือนเดียว และเฉพาะเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เกือบ 1.5 ล้านราย
เดือนธันวาคม เป็นเดือนที่เลวร้ายที่สุดในการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ โดยมีผู้เสียชีวิตเกือบ 78,000 รายในเดือนเดียว และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเตือนว่า จะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นอีกในเดือนมกราคม แม้มีการแจกจ่ายและฉีดวัคซีนแล้ว
ในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 มกราคม ในสหรัฐมีผู้เสียชีวิตจากโควิดมากกว่า 18,400 ราย รวมตัวเลขผู้เสียชีวิตสะสมทั่วประเทศอยู่ที่มากกว่า 351,000 ราย หรือเท่ากับ 1 คนต่อชาวอเมริกันทุก ๆ 930 ราย จากการวิเคราะห์ของสำนักข่าวรอยเตอร์และของรัฐบาล นอกจากนี้ สหรัฐยังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เกือบ 1.5 ล้านรายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 16.5 เปอร์เซ็นต์ จาก 7 วันก่อนหน้า
สหรัฐมีผู้ติดเชื้อรวมทั่วประเทศแล้วกว่า 20.5 ล้านราย และเสียชีวิต 351,480 รายเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนวันอาทิตย์ ส่วนอัตราเฉลี่ยผู้เสียชีวิตช่วง 7 วัน อยู่ที่ 2,636 รายต่อวัน
ศูนย์ตรวจโควิดหลายแห่งปิดให้บริการในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวสิ้นปี ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในสัปดาห์นี้ อาจสูงกว่าปกติเนื่องจากยังมีข้อมูลบางส่วนที่ยังไม่รายงาน
ส่วนผู้ป่วยโควิด-19 ที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลขณะนี้ อยู่ที่มากกว่า 126,000 ราย เพิ่มขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์จากเมื่อหนึ่งเดือนก่อน ซึ่งการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยในโรงพยาบาล ที่ทำสถิติต่อเนื่องเกือบทุกวันในช่วงหลายสัปดาห์มานี้ เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข คาดการณ์ว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้
แม้ว่าจะเรียกร้องให้หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเทศกาลวันหยุด แต่สนามบินหลายแห่งทั่วสหรัฐ ก็ยังตรวจคัดกรองประชาชนได้มากถึง 1.3 ล้านคนในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
รายงานข่าวระบุว่า รัฐแอริโซนา, เทนเนสซีและเซาท์ แคโรไลนา รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุดต่อหัวประชากรเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ในแง่ของตัวเลขผู้เสียชีวิตต่อหัวประชากรนั้น รัฐแคนซัส, ไวโอมิง และนิวเม็กซิโก รุนแรงที่สุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะที่ผู้ว่าการของรัฐนิวยอร์กและฟลอริดา ก็พยายามเร่งโครงการฉีดวัคซีนโควิด ที่ดำเนินไปล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ ด้วยการเตือนโรงพยาบาลในวันจันทร์ว่า พวกเขาจะลดความช่วยเหลือสนับสนุนในอนาคตต่อโรงพยาบาลที่ล้มเหลวในการฉีดวัคซีนอย่างรวดเร็วเพียงพอ โดยนายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก แถลงว่า ในรัฐนิวยอร์ก โรงพยาบาลต่าง ๆ ต้องฉีดวัคซีนภายใน 1 สัปดาห์หลังได้รับวัคซีน มิเช่นนั้นต้องถูกปรับและตัดความช่วยเหลือในอนาคต ซึ่งคำประกาศของเขามีขึ้นไม่กี่ชั่วโมง ก่อนการประกาศว่า นิวยอร์กพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ ที่ตรวจพบการระบาดครั้งแรกในอังกฤษ
นายคูโอโม กล่าวว่า เขาไม่ต้องการให้วัคซีนแช่อยู่ในตู้เย็น หรือช่องแช่แข็ง แต่ต้องการให้วัคซีนอยู่ในแขนของประชาชน หากโรงพยาบาลไม่ปฏิบัติตามหน้าที่นี้ มันก็จะเพิ่มคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของโรงพยาบาล
ทั้งนี้ ไวรัสโควิดกลายพันธุ์ ซึ่งถูกพบในรัฐฟลอริดา, โคโลราโดและแคลิฟอร์เนียด้วย ตรวจพบในชายวัย 60 ปีที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทางตอนเหนือของเมืองอัลบานี ซึ่งไม่เคยมีประวัติการเดินทางในช่วงนี้ เชื่อว่าการระบาดเกิดขึ้นภายในชุมชน
ในรัฐฟลอริดา เจ้าหน้าที่กำหนดให้ประชาชนผู้สูงวัยรับวัคซีนก่อนเจ้าหน้าที่สำคัญจำนวนมาก โดยรอน เดอแซนติส ผู้ว่าการรัฐ ประกาศนโยบาย ซึ่งภายใต้นโยบายนี้ ทางรัฐจะจัดสรรวัคซีนให้โรงพยาบาลต่าง ๆ เพื่อฉีดให้ประชาชนโดยเร็ว โรงพยาบาลที่ทำงานไม่ได้ดีในการฉีดวัคซีน ทางรัฐบาลจะนำวัคซีนที่จัดสรรให้ไปให้กับโรงพยาบาลที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ดีแทน เราไม่ต้องการให้วัคซีนวางทิ้งไว้ที่ระบบโรงพยาบาลบางแห่งโดยไม่ได้ใช้ประโยชน์ แต่เขาก็ไม่ได้บอกว่า โรงพยาบาลจะถูกปรับ
ทั้งนี้ รัฐฟลอริดา จะเพิ่มจำนวนพยาบาลอีก 1,000 คน เพื่อทำหน้าที่ฉีดวัคซีน และจะประจำอยู่ตามศูนย์ฉีดวัคซีนของรัฐที่เปิดให้บริการตลอด 7 วัน
รัฐบาลกลางสหรัฐ แจกจ่ายวัคซีนมากกว่า 15 ล้านโดสให้แก่รัฐและดินแดนต่าง ๆ ทั่วประเทศ แต่จนถึงขณะนี้ เพิ่งฉีดไปได้ประมาณ 4.5 ล้านคน จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี ที่เผยแพร่ในวันจันทร์ สหรัฐยังฉีดวัคซีนให้ประชาชนไม่ได้ตามเป้าที่กำหนดไว้ 20 ล้านคนภายในสิ้นปี 2563 เจ้าหน้าที่ กล่าวว่า คาดว่าจะฉีดได้เพิ่มมากขึ้นในเดือนนี้
เจอโรม อาดัมส์ นายแพทย์ทหาร กล่าวกับซีบีเอส นิวส์ ว่า มีวัคซีนต้านโควิดในขณะนี้ 15-20 ล้านโดส
นิวยอร์กฉีดวัคซีนไปแล้วประมาณ 175,000 โดสจากจำนวนทั้งสิ้น 896,000 โดส ที่ได้รับมาตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม จากข้อมูลของซีดีซี ส่วนรัฐฟลอริดา ฉีดวัคซีนไปแล้ว 265,000 โดส จากที่ได้รับ 1.14 ล้านโดส
ในนิวยอร์ก ซิตี้ นายเดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรี กล่าวว่า มีอุปสรรคหลายอย่างกำลังทำให้เป้าหมายของเขาในการฉีดวัคซีนเข็มแรกจาก 2 เข็มให้ประชาชน 1 ล้านคนภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้ เกิดความล่าช้า ตอนนี้เพิ่งฉีดไปได้เพียง 110,000 คนเท่านั้นสำหรับวัคซีนเข็มแรก
อย่างไรก็ตาม ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ก็เป็นวันแรกด้วยที่ชาวอเมริกันบางส่วนมีกำหนดรับวัคซีนเข็มที่ 2 ห่างกัน 3 สัปดาห์หลังฉีดเข็มแรกไป ซึ่งในจำนวนนี้ มีนางมาริตซา เบนิเกซ บุคลากรทางการแพทย์ในเมืองเนวาร์ก รัฐนิวเจอร์ซีด้วย “ตอนนี้ ฉันทีเกราะป้องกันตัวเองแล้ว” เธอกล่าวหลังได้รับวัคซีน ซึ่งมีคลิปวิดีโอเผยแพร่ทางเฟชบุ๊กโดยเจ้าหน้าที่รัฐด้วย