แจ้งจับ! เท้าแชร์ทองแสบ ตุ๋นเหยื่อสูญ 16 ล้าน

2021-01-04 18:00:20

แจ้งจับ! เท้าแชร์ทองแสบ  ตุ๋นเหยื่อสูญ 16 ล้าน

Advertisement

แห่แจ้งจับ "ซ้อเจี๊ยบ" เท้าแชร์ทองแสบ ตุ๋นเหยื่อสูญนับสิบล้านบาท ชาวบ้านปวดหัว ตำรวจท้องที่ไม่รับแจ้งความ

เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 64 ที่บริเวณ สภ.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี น.ส.วรรณปรียา อายุ 34 ปี พร้อมผู้เสียหายกว่า 30 คน เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.พิกุลแก้ว (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี หรือที่รู้จักกันในชื่อซ้อเจี๊ยบ โปรทอง โพสต์ข้อความโปรโมชั่นขายทองคำในราคาต่ำกว่าท้องตลาดทั่วไป แต่จะมีระยะเวลาในการรับทองจากผู้โพสต์ตั้งแต่ 10 วันขึ้นไป แต่สุดท้ายโดนโกง มีผู้เสียหายรวมตัวในกลุ่มไลน์กว่า 200 คน

โดย น.ส.วรรณปรียา กล่าวว่า ตนได้เห็นโพสต์จำหน่ายทองในราคาถูกจากเฟซบุ๊กดังกล่าว จึงเกิดความสนใจศึกษา และตรวจสอบจากคนที่รู้จักที่เคยลงทุนกับเฟซบุ๊กนี้ว่า ได้รับทองคำจริงตามที่กล่าวอ้างหลายรายแล้ว บางรายลงทุนมาหลายปีแล้ว ตนเองจึงสนใจการเล่น ในรูปแบบ โปรทองราคาถูกกว่าท้องตลาด โอนเงินซื้อทองแล้วรอคิวรับทอง อีกทั้งก่อนหน้าที่โปรทองจะล่ม ในวันที่ 26 ธ.ค.63 น.ส.พิกุลแก้ว หรือซ้อเจี๊ยบ ผู้ก่อเหตุ ได้ลงพื้นที่มายังเกาะสีชัง เดินตามหาลูกแชร์ พูดคุยและออกอุบายว่าทองคำจะหมดแล้ว ช่วยซื้อส่งท้ายปีกันหน่อย ส่งผลให้ผู้ที่สนใจ ต่างเทเงินสั่งซื้อกันเป็นจำนวนมาก รวมแล้วมูลค่ากว่า 16 ล้านบาท ก่อนที่จะถูกเชิดเงินหลบหนีไป




โดยเฟซบุ๊กซ้อเจี๊ยบ ใช้วิธีลงประกาศโฆษณา พร้อมเชิญชวนให้ผู้เล่นร่วมลงทุนทองคำในลักษณะเล่นแชร์ โดยมีการโฆษณาว่า เป็นการซื้อทองคำในราคาถูกกว่าราคาตลาด ส่งเงินเป็นงวดๆ เหมือนกับการเล่นแชร์ทั่วไป จนกว่าจะถึงคิวรับทองคำหรือจะรับเป็นเงินสดก็ได้  จึงทำให้มีคนหลงเชื่อร่วมลงทุนเป็นจำนวนมาก ส่วนตัวเองเสียไป 3 แสนบาท แต่ถึงเวลารับทองคำก็ไม่ได้รับทองตามเวลาที่กำหนด ผู้เสียหายพยายามติดตามทวงถามก็บ่ายเบี่ยงเรื่อยมา ประกอบกับผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้มีการตั้งกลุ่มไลน์และเฟซบุ๊กกลุ่มลับซ้อเจี๊ยบ เพื่อพูดคุยกันโดยมีสมาชิก 271 ราย ซึ่งเมื่อกลุ่มสมาชิกได้พูดคุยกันพบว่า โดนบ่ายเบี่ยงไม่ได้รับทองคำตามที่ตกลงกันไว้ ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2563 เรื่อยมา จึงรวมตัวกันมาแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายฉ้อโกง

ทั้งนี้ ระหว่างผู้เสียหายกลุ่มนี้กำลังแจ้งความดำเนินคดีนั้น ก็มีกลุ่มผู้เสียหายรายอื่นๆหอบเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความในลักษณะเดียวกันอีกหลายสิบราย รายละตั้งแต่ 1 แสนบาท จนถึง 3 แสนบาท



เบื้องต้นทางผู้เสียหายส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่ เกาะสีชัง อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี ประกอบอาชีพประมง ขายอาหาร ซึ่งได้เดินทางข้ามทะเลมาแจ้งความ สภ.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยให้เหตุผลว่า ทาง สภ.เกาะสีชัง อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี ไม่ยอมรับแจ้งความ ทั้งๆ ที่เป็นพื้นที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตามทางด้าน  พ.ต.อ.พงศ์พันธ์ พลวงษ์ศรี ผกก.สภ.ศรีราชา ได้มีการให้ผู้เสียหาย ลงชื่อและรวบรวมหลักฐานไว้ ส่วนผู้เสียหายรายใด ที่โอนเงินในพื้นที่ สภ.ศรีราชา จะดำเนินการรับแจ้งความไว้ ในขณะผู้เสียหาย ที่โอนเงินในพื้นที่ เกาะสีชัง ก็จะส่งเรื่องไปยัง สภ.เกาะสีชัง ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป